นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าปี 55 ครองอันดับ 1 ในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 สร้างรายได้รวม 30,700 ล้านบาท เติบโต 12% จากปี 54 หรือคิดเป็นยอดสินเชื่ออยู่ที่ 480,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 31% เชื่อลูกค้าเอสเอ็มอีเลือกใช้ธนาคารหลักในการดำเนินธุรกิจ(Main Bank)เพิ่มขึ้นเป็น 33%
เศรษฐกิจไทยปีหน้าแม้จะเผชิญปัจจัยลบอยู่บ้างจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะวิกฤติการเงินในยุโรป ซึ่งจะกระทบต่อภาคการส่งออกและอุทกภัยครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงไตรมาสแรกปีหน้า แต่จะมีปัจจัยบวกที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ อุปสงค์ของตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ แรงหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจเชิงกระตุ้นจากรัฐบาล และการลงทุนของภาครัฐบาลและภาคเอกชน เพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุอุทกภัย คาดว่ามูลค่าการลงทุนอาจสูงถึงประมาณ 400,000-500,000 ล้านบาทในปี 55
สำหรับอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้ดีในปีหน้า ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมค้าวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งธนาคารพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนการเติบโตของทุกธุรกิจเอสเอ็มอี ด้วยกลยุทธ์ทั้ง 5 ด้านเพื่อเคียงข้างการเติบโตทุกช่วงธุรกิจอย่างยั่งยืน
ผลการดำเนินงานของธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการของ KBANK ตลอดทั้งปี 54 ยังมีการเติบโตโดยรวมที่น่าพอใจบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกด้าน โดยยอดรายได้อยู่ที่ 27,700 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน ยอดสินเชื่อขยายตัว 9% ทำให้สิ้นปีนี้ยอดสินเชื่อจะอยู่ที่ 428,700 ล้านบาท สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีจะอยู่ที่ 3.48% ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 3.8%
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 54 ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่รอบนี้ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จึงคาดว่าจีดีพีของไทยในปี 54 ทั้งปี จะการขยายตัวเหลือประมาณ 1.5% ส่วนปี 55 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4.3% โดยจะเริ่มกลับมาเป็นบวกในไตรมาส 2/55