ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ปรับตัวลง 20 จุด หรือ 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 12,014 จุด ขณะที่ดัชนี S&P ล่วงหน้า ปรับตัวลง 0.3% มาอยู่ที่ระดับ 1,242.4 จุด ณ เวลา 06.49 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ หลังจากจีนเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552
สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของจีน ร่วงลง 1.4 จุด มาอยู่ที่ระดับ 49 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.4 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2552
นักวิเคราะห์จากครอสบริดจ์ แคปิตอลกล่าวว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนกำลังหดตัวลง และในขณะที่สถานการณ์ในยุโรปยังไม่คลี่คลายนั้น ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของจีนอาจจะส่งผลให้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเลวร้ายลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากการที่สเปนและฝรั่งเศสสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรได้ตามเป้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังคงต้องการถือครองสินทรัพย์ของประเทศยูโรโซน ในขณะที่ผู้นำยุโรปพยายามหาทางควบคุมวิกฤหนี้ไม่ให้ลุกลาม
ทั้งนี้ สเปนสามารถประมูลขายพันธบัตรได้ 3.7 พันล้านยูโร (5.1 พันล้านดอลลาร์) ในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายสูงสุดที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ ขณะที่ฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรได้ 4.346 พันล้านยูโร ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ที่ 4.5 พันล้านยูโร อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีของสเปนอยู่ที่ 5.544% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการประมูลเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ระดับ 4.848% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของฝรั่งเศสพุ่งขึ้นมากถึงระดับ 2.04%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศษฐกิจของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก รายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือน พ.ย.ในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย