ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นแบงก์,พลังงาน ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 16.08 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 2, 2011 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานตัวเลขคนว่างงานของสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 16.08 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 5,489.34 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 402,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 396,000 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือนที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐพุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 400,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอ่อนแอ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง ภายหลังจากที่จีนเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยหุ้นบีพีร่วงลง 1.4% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวลง 0.8%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากแรงเทขายทำกำไร โดยหุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิง ร่วงลง 3.3% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดิ่งลง 2.1% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 1.7% แต่หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่งขึ้น 1.7% หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ขึ้นสู่ระดับ A+ จากระดับ A เนื่องจากธนาคารมีส่วนแบ่งตลาดที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย

หุ้นเบอร์เบอรี่ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3% หลังจากนักวิเคราะห์ของเซมัวร์ เพียร์ซ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ส่วนหุ้นโรลส์-รอยซ์ ขยับขึ้น 0.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโรลส์-รอยซ์เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ