บมจ.โทรีเซนไทยเอเยนต์ซีส์ (TTA) คาดกำไรจากการดำเนินในทุกธุรกิจงวดปี 54/55 (ต.ค.-ก.ย.) ดีกว่าปีก่อน โดยในปีหน้าบริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ ซึ่งเป็นบริษัทจะมีการรับมอบเรือใหม่อีก 2 ลำ ขณะที่อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 1.1-1.2 หมื่นเหรียญสรอ./วัน/ลำ ทรงตัวจากในปีนี้
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบัญชีและการเงิน TTA กล่าวว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/55 (ต.ค.-ธ.ค.54) จะดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน แม้ธุรกิจเดินเรือไตรมาสแรกจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของปี แต่มองว่าปีนี้จะไม่มีกรณีโจรสลัดโซมาเลียจึงน่าจะดีกว่าปีก่อน
ส่วนธุรกิจถ่านหินของ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) ที่บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดว่าในไตรมาส 1/55 อาจแย่กว่างวดเดียวกันปีก่อนที่ราคาถ่านหินแรงปรับสูงขึ้นมากในช่วงปลายปี
"โดยรวมของบริษัทไตรมาส 1/55 ดีขึ้น และเชื่อว่าผลประกอบการงวดปี 55 (ต.ค.54-ก.ย.55) จะดีกว่างวดปีนี้ ผลกำไรจากการดำเนินงานควรจะดีขึ้นจากทุกธุรกิจ เพราะกองเรือดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นเหมาะสมกับการให้บริการต่อไปโดยเฉพาะเรือของ บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะสูงขึ้นจากปีก่อนเนื่องจากบริษัทจะได้รับมอบเรือใหม่ 2 ลำ เป็นเรือ Supramax โดยทยอยเข้ามาในปี 55 ซึ่งจะทำให้กองเรือรวมของเราอยู่ที่ 17 ลำ คงทำกำไรในธุรกิจเรือได้มากขึ้น" นางฐิติมา กล่าว
ทั้งนี้คาดว่าอัตราค่าระวางเรือใน 12 เดือนข้างหน้าจะทรงตัวจากปีนี้ที่ระดับ 1.1-1.2 หมื่นเหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน หากไม่มีเหตุการณ์พลิกผัน ซึ่งจุดคุ้มทุนของบริษัทอยู่ที่ 9,000 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ นอกจากนี้บริษัทมีแผนขายเรือเก่าออกอีก 1 ลำในปี 55
ทั้งนี้ คาดว่าดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ใน 12 เดือนข้างหน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,500-2,000 จุด เทียบกับเฉลี่ยปีก่อนที่ 1,500-1,600 จุด