ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) หลังจากรัฐบาลอิตาลีประกาศมาตรการรัดเข็มขัดเร่งด่วน มูลค่า 3 หมื่นล้านยูโร หรือว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวปัญหาหนี้ของอิตาลี
ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 242.75 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 25.41 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 6,106.09 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,086.42-6,170.04 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 36.33 จุด หรือ 1.15% แตะที่ 3,201.28 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,183.57-3,215.78 จุด
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 15.67 จุด หรือ 0.28% แตะที่ 5,567.96 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,545.93-5,602.80 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศมาตรการรัดเข็มขัดเร่งด่วน มูลค่า 3 หมื่นล้านยูโร หรือว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและป้องกันผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป
นายมอนติกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการปฏิรูประบบบำเน็จบำนาญและการเกษียณอายุงาน การเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ และการเก็บอากรสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย เช่นเรือยอชต์และรถยนต์ราคาแพง และยังครอบคลุมถึงการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านการลงทุน การเปิดเสรีด้านอาชีพ และการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นบังโค ซานตานเดร์ ธนาคารรายใหญ่ของสเปน พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นยูนิเครดิต ธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 5.4% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.9%
อย่างไรก็ตาม หุ้นมิเชล เพจ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานของยุโรป ร่วงลง 5.2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2554