นายกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 55 ไว้ที่ราว 4,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมการรับรู้รายได้จากงานในมือ(Backlog)ที่ประเทศพม่าที่มีกว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าสิ้นปี 54 บริษัทจะสามารถทำรายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท ซึ่งได้รวมรายได้จากพม่าที่คาดว่าจะทำได้ประมาณ 1,300 ล้านบาทแล้ว
อนึ่ง สิ้นไตรมาส 3/54 บริษัทมีรายได้ 2,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนรายได้ที่มาจากพม่ากว่า 1,100 ล้านบาท
บริษัทมีแผนเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานททดแทนเต็มตัวในปีหน้า โดยขณะนี้เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศพม่า ล่าสุดเพิ่งมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น(MOU))เพื่อรับงานโรงไฟฟ้าพลังลมขนาด 1,000 เมกะวัตต์ เบื้องต้นคาดว่าจะแบ่งเป็น 5 เฟส เฟสละ 200 เมกกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 60,000 ล้านบาท
นายกัลกุล คาดว่า สุดท้ายแล้ว GUNKUL คงจะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนใหม่ประมาณ 20% เนื่องจากบริษัทฯจะเปิดให้หน่วยงานการไฟฟ้าของไทยเข้ามาถือหุ้นไม่เกิน 25% และรัฐบาลพม่าถือหุ้น 10%
ส่วนที่เหลือก็จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนด้วย อย่างสถาบันการเงินระหว่างประเทศอย่างธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB),ธนาคารโลก(World Bank)เป็นต้น หรือนักลงทุนจากเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งทำธุรกิจในพม่าอยู่แล้วก็มีความสนใจที่จะลงทุนพวกพลังงานด้วยเหมือนกัน อีกทั้งโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารไทยพาณิชย์ด้วย
โครงการดังล่าวจะตั้งอยู่บนพื้นที่ใน 3 รัฐของพม่า คือ ตะนินตายี (TANITHARYI) คะยิน (KAYIN) และมอญ(MON) โดยบริษัทคงจะเริ่มที่รัฐตะนินตายีก่อน คาดว่าใช้เงินลงทุนปีแรกไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะใช้ระยะเวลาศึกษาความเป็นไปได้ 6 เดือนหลังเซ็น MOU และอีก 6 เดือนในการติดตั้งกังหันลม คาดว่าภายในปี 58 จะสามารถขายไฟฟ้าและรับรู้รายได้ด้วยเช่นกัน
“ปัจจุบันบริษัทฯมีสำนักงานตัวแทนขายอยู่ที่พม่า โดยมีทั้งหมด 3 สำนักงาน ตั้งอยู่ที่มัณฑาเลย์, ร่างกุ้ง และเดมีดอร์ ซึ่งรายได้ที่มาจากทางพม่าคิดเป็นประมาณ 50% ของรายได้ทั้งหมดของ GUNKUL"ประธานกรรมการบริหาร กล่าว
ส่วนนาย Zeya Thura Mon ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ZEYA & ASSOCIATES ซึ่งเป็นสำนักงานตัวแทนขายของ GUNKUL กล่าวเชื่อว่า เศรษฐกิจของพม่าจะยังสามารถเติบโตได้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะปีหน้าหากนักลงทุนจากเวียดนามและสหรัฐเข้ามาทำธุรกิจในพม่าได้ ก็จะทำให้เติบโตได้ในระดับสูง
ด้าน น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวถึงโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาผู้ร่วมลงทุนเพียง 1 ใน 3 ตัวเลือกที่มีอยู่ โดยทั้งหมดเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะสรุปผลไม่เกินวันที่ 20 ธ.ค.54 โดยจะเปิดให้เข้ามาร่วมถือหุ้น 50% ในบริษัท จี พาวเวอร์ ซอร์ซ ที่มีงานผลิตไฟฟ้าอยู่ 26 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดว่าการระดมทุนด้วยการหาผู้ร่วมทุนใหม่นี้จะได้รับเม็ดเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าได้ประมาณวันที่ 1 ก.พ.55 และรายได้คงจะเริ่มทยอยเข้ามาในไตรมาส 1/55 ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้ทั้งหมดประมาณ 1,500 ล้านบาท
“หลังจากที่เราได้ผู้ร่วมทุนแล้วก็จะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ลดลงเหลือประมาณ 1.7 เท่า จากเดิมที่มี D/E อยู่ 4 เท่า ส่วนอีก 31 เมกะวัตต์ที่เป็นของบริษัท กันกุล พาวเวอร์ เจน คงจะเริ่มเดินหน้าได้เมื่อเสร็จในส่วนของ 26 เมกะวัตต์ ของ จี พาวเวอร์ ซอร์ซ เรียบร้อยแล้ว"น.ส.โศภชา กล่าว