บมจ.การบินไทย(THAI)เผยศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบินที่ดำเนินการโดยฝ่ายช่างของการบินไทยที่อากาศยานดอนเมืองกลับมาเปิดทำการตามปกติแล้วตั้งแต่วันนี้ หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ทำให้ต้องปิดทำการไปตั้งแต่ 26 ต.ค.54 ได้คลี่คลายลงแล้ว พร้อมยืนยันเครื่องบินโบอิ้ง A300-600 จำนวน 2 ลำที่จอดแช่น้ำ สามารถประมูลขายได้แล้วและราคาขายไม่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งหากตรวจสอบพบว่าเครื่องเสียหายก็ยังมีเงินประกันชดเชยไว้แล้ว
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า ฐานปฏิบัติงานของฝ่ายช่างที่ดอนเมืองได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงทำให้ไม่สามารถซ่อมบำรุงเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ตามปกติตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเครื่องบินจำนวน 5 ลำที่ตกค้าวอยู่การซ่อมใหญ่และติดค้างอยู่ในโรงซ่อมอากาศยาน แต่ตัวเครื่องบินไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เนื่องจากได้มีการยกตัวเครื่องบินให้พ้นจากระดับน้ำท่วมทุกลำ ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงสุดถึง 1.67 เมตร
แต่ขณะนี้ฝ่ายช่างพร้อมปฏิบัติการซ่อมใหญ่อากาศยานอย่างเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.54 โดยจะเปิดทำการทุกวัน
เครื่องบิน 5 ลำที่อยุ่ในโรงซ่อมที่ดอนเมือง ได้แก่ เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 จำนวน 2 ลำ ลำแรกอยู่ระหว่างการดัดแปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า(Air Cargo)กำหนดเดิมแล้วเสร็จประมาณเดือนมี.ค.55 ก็ทำให้ล่าช้าไป 1 เดือน ส่วนเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 อีกลำอยู่ระหว่างการปรับปรุงที่นั่งในชั้นประหยัดใหม่ทั้งหมดจะแล้วเสร็จล่าช้า 2 เดือนจากกำหนดการเดิมที่คาดแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. 54
นอกจากนี้ยังมีเครื่องบิน โบอิ้ง 777-300 จำนวน 1 ลำ เครื่องบิน โบอิ้ง 777-300ER จำนวน 1 ลำ และ เครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 1 ลำ ซึ่งทั้ง 3 ลำอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงตามปกติและไม่มีผลกระทบต่อตารางการบิน
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ส่วนเครื่องบินแอร์บัส เอ 300-600 จำนวน 2 ลำ ที่ถูกน้ำท่วมขังบริเวณล้อของเครื่องบินนั้น ฝ่ายช่างได้ใช้พลาสติกห่อหุ้มอย่างดีทั้งส่วนของฐานล้อและเครื่องยนต์ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบความเสียหาย แต่มีอุปกรณ์ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงอากาศยานและอะไหล่เครื่องบินบางส่วนที่อาจได้รับความเสียหายยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และประเมินความเสียหาย ซึ่งทั้ง 2 ลำนี้ได้ทำประกันภัยไว้ครอบคลุมความเสียหาย
ขณะเดียวกัน เครื่องบิน 2 ลำดังกล่าวอยู่ระหว่างการประมูลจำหน่ายที่มีผู้ยื่นประมูล 9 ราย คาดว่าจะประกาศผู้ชนะในปลายธ.ค.นี้ ซึ่งราคาเสนอซื้อไม่ได้ลดลงจากภาวะน้ำท่วม โดยเครื่องบินทั้ง 2 ลำนี้อายุกว่า 20 ปีได้ถูกปลดระวาง
"เครื่องบินเก่า 2 ลำนี้ขายได้ลำละประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ จริงๆ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ใต ถ้ามีความเสียหายเราก็มีประกันจ่ายชดเชย"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายช่างมีโรงซ่อมอากาศยาน 5 โรง และอาคารสำนักงาน 2 แห่ง ซึ่งได้ทำประกันอาคารและโรงซ่อมละ 300 ล้านบาท ระหว่งนี้การบินไทยอยูระหว่างประเมินความเสียหายของฐานปฏิบัติการฝ่ายช่างที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อแจ้งให้บริษัทประกันภัยชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น