นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ปริญสิริ (PRIN) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทประเมินว่าเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปีนี้คงส่งผลกระทบต่อบริษัทในระยะสั้น เพราะไม่มีโครงการใดที่ถูกน้ำท่วม แต่ยอมรับว่ายอดขายในช่วงไตรมาส 4/54 จะชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ผ่านๆ มา เพราะประชาชนยังอยู่ภาวะตกใจและคงต้องการใช้เงินเพื่อช่อมแซมอาคารบ้านเรือนที่เสียหายก่อน
ขณะที่รายได้รวมในปี 54 คาดว่าจะทำได้ประมาณ 2 พันล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกของปีมีรายได้แล้ว 1.44 พันล้านบาท โดยรายได้ในปีนี้ถือว่าปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ถึง 4.4 พันล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาการบริหารจัดการต่างๆ รวมทั้งการตลาดของบริษัท ยังทำได้ไม่ดีพอ จึงทำให้ยอดขายไม่เป็นไม่ตามเป้าหมาย
ประกอบกับ ปีนี้บริษัทเปิดโครงการใหม่เพียงแค่ 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3 พันล้านบาท น้อยกว่าเป้าหมายที่วางแผนจะเปิด 6-7 โครงการ โดยโครงการที่เหลืออีก 3-4 โครงการจะเลื่อนไปเปิดในปีหน้าช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ซึ่งมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 3-4 พันล้านบาท และจะมีการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง แต่จะมีจำนวนเท่าใดอยู่ระหว่างการพิจารณา
“ยอดขายในไตรมาส 4/54 อาจจะมีผลกระทบบ้างจากน้ำท่วม ประกอบกับเป็นช่วงปลายปี ซึ่งโดยปกติแล้วการตัดสินใจซื้อต่างๆก็มักจะชะลอลงอยู่แล้ว....คิดว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ภายใน 3-6 เดือน ยอดขายน่าจะกลับมาเป็นปกติ จากตอนนี้ที่หลายคนกำลังช็อคและชะลอการซื้อ ตอนนี้บริษัทก็อยู่ระหว่างการปรับแผนธุรกิจในปี 55 คงได้ข้อสรุปเร็วๆนี้"นายชัยวัฒน์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (backlog) ประมาณ 1.9 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 55
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการที่จะพัฒนาในช่วงต่อจากนี้ เพื่อวางแนวทางป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินต้นปีหน้า ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการคงทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5-10% ทำให้บริษัทจะต้องมีการปรับขึ้นราคาขายบ้านและคอนโดมิเนียมในปีหน้าขึ้นด้วยเช่นกัน
“ตอนนี้เรากำลังทำรายละเอียดที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมเช่น จะถมดินให้สูงขึ้น ปรับปลั๊ก การทำบ่อปั๊มเพื่อที่จะได้ดักน้ำ ตอนนี้กำลัง work รายละเอียดทั้งหมดว่าจะทำอะไรได้บ้าง ก็คงจะมีการปรับเปลี่ยนในหลายๆจุด ซึ่งต้นทุนก่อสร้างในปีหน้าก็คงจะเพิ่มขึ้น 5-10% ราคาบ้านก็คงต้องมีการปรับขึ้นด้วยบางส่วน แต่จะมากน้อยแค่ไหนขอรอดูอีกที"นายชัยวัฒน์ กล่าว