สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 57,463 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 46,020 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 80% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 10,582 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 4 ปี 6 ปี และ 18 ปี (LB15DA LB176A และ LB296A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,495 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 687 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI14OA) หุ้นกู้ของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW122A) และหุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 386 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 9,059 ล้าน กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 2,232 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 5,062 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานเล็กน้อย หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงประมาณ -1 ถึง -2 Basis Point ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ในวันนี้มีแรงซื้อจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากตลาดคาดว่าในการประชุมผู้นำยุโรปจะมีมาตรการที่เข้มแข็งทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงการแก้สนธิสัญญาเพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณและยุติวิกฤตหนี้ในยูโรโซน
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.21% ปรับตัวลดลง 0.01% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.15% ปรับตัวลดลง 0.01% จากวันทำการก่อนหน้า