ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) หลังจากรัฐบาลเยอรมนีปฏิเสธข้อเสนอให้มีการรวมกองทุนช่วยเหลือยูโรโซนในปัจจุบันเข้ากับกองทุนถาวร นอกจากนั้นยังแสดงความเห็นในแง่ลบเรื่องผลการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงบรัสเซลล์ในวันที่ 8-9 ธ.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2 % ปิดที่ 241.44 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 34.09 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 5,994.73 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,919.56-6,137.05 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 3.65 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 3,175.98 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,131.99-3,244.89 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง 21.81 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 5,546.91 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,497.96-5,631.88 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป หลังจากเยอรมนีปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการใช้กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป โดยย้ำว่ากองทุน EFSF จะถูกทดแทนด้วยกองทุนถาวรที่มีชื่อว่ากลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ตามระยะเวลาที่ได้มีการกำหนดไว้ในปี 2556 และจะไม่มีการใช้กองทุนทั้งสองพร้อมกันเด็ดขาด
นอกจากนี้ เยอรมนียังได้แสดงมุมมองที่เป็นลบต่อผลการประชุมอียูในครั้งนี้ โดยกล่าวว่ารัฐบาลเยอรมนีคาดว่า ที่ประชุมอาจจะไม่สามารถข้อตกลงกันได้ในเรื่องการกู้วิกฤติหนี้ยูโรโซนเนื่องจากรัฐบาลของหลายประเทศยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า สถานการณ์ในขณะนี้มีความรุนแรงมากเพียงใด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงแม้มีรายงานว่าเยอรมนีประสบความสำเร็จในการพันธบัตรอายุ 5 ปี วงเงิน 4.09 พันล้านยูโร (5.48 พันล้านดอลลาร์) ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรสูงกว่าจำนวนที่นำออกจำหน่าย
หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง โดยหุ้นบังคา มอนเต เดอ ปาสชี เดอ เซียนา ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลี ร่วงลง 4.8% หุ้นไอเอ็นจี กรุ๊ป ดิ่งลง 4.7%
นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายสำหรับปีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 1.0% และอาจจะประกาศอัดฉีดสภาพคล่องรอบใหม่เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเงินทุนในภาคธนาคาร