โบรกเกอร์ต่างเชียร์หุ้นบมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC) พื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ที่ดี-มีการจ่ายปันผลสูง โดยปี 2554 คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Divident Yield)ประมาณ 5.4-6.2% ส่วนปี 2555 คาดว่าจะมี 6.7-7.6%
นอกจากนี้ มองว่า Valuation ยังต่ำอยู่ในขณะนี้ โดยปัจจุบันมีการเทรดในระดับค่า P/E ปี 2554 แค่ 6.9 เท่า และเมื่อคิด P/E ปี 2555 เทรดแค่ 5.9 เท่า ซึ่งในระดับการเทรดด้วย P/E แค่ 5-6 เท่าถือว่าต่ำ
ทั้งนี้ ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นนี้จะเห็นได้ว่าโครงการของ SC จะไม่โดนน้ำท่วมเลย จึงเป็นจุดที่ทำให้มีผู้สนใจซื้อมากขึ้น โดยปีหน้า(2555)SC ก็จะมีการโอนรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมที่สุทธิสาร นอกจากนี้ในปีหน้า SC ก็มีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ที่สุขุมวิท 34, ที่หัวหิน และที่สาธร ซอย 11 ส่วนที่เหลือจะเป็นแนวราบ ส่วนมากจะเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555 ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555 คาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวสูงขึ้น
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2554)ไว้ในช่วง 1,062-1,276 ล้านบาท ส่วนปีหน้า(2555)คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ในช่วง 1,464-1,487 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้า SC ก็จะมีการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ ทั้งในส่วนของคอนโดมิเนียม และแนวราบ นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากภาษีนิติบุคคลที่ลดเหลือ 23% จากเดิม 30% ด้วย
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 18.25 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ถือ 13.55 บล.บัวหลวง ซื้อ 12.80
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกในปีนี้ของ SC ทำได้ดีมาก และช่วงที่เหลือของปีนี้ก็ยังจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 7 โครงการในไตรมาส 4/54 โดยเป็นคอนโดมิเนียม 3 โครงการ และเป็นแนวราบอีก 4 โครงการ ซึ่ง SC น่าจะได้รับผลดีจากน้ำท่วมด้วย เพราะทุกโครงการของ SC ไม่ถูกน้ำท่วมเลย แม้ว่าจะแวดล้อมไปด้วยน้ำท่วมรอบนอกก็ตาม แสดงให้เห็นว่ามีการป้องกันเป็นอย่างดี
ส่วนในปีหน้า SC ก็จะมีการโอนรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมที่สุทธิสาร นอกจากนั้น มีแผนเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 3 โครงการที่สุขุมวิท 34, ที่หัวหิน และที่สาธร ซอย 11 ส่วนที่เหลือจะเป็นแนวราบ
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 1,062 ล้านบาท ส่วนปี 55 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,464 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้า SC ก็จะมีการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากภาษีนิติบุคคลที่ลดเหลือ 23% จากเดิม 30% ด้วย
ด้านนายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ให้เหตุผลแนะ"ถือ"หุ้น SC ว่า เนื่องจากราคาหุ้น SC ได้ปรับตัวขึ้นมาพอสมควรแล้ว แต่พื้นฐานของ SC ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังมีการจ่ายเงินปันผลดีด้วย โดยปี 54 คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Divident Yield)ประมาณ 5.4% ส่วนปี 55 คาดไว้ที่ 6.7%
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารของ SC รับทราบข้อมูลว่ามีการปรับประมาณการรายได้ปีหน้าลดลงเหลือ 7,700 ล้านบาท จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 10,000 ล้านบาท แต่ก็ยังเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 54 ที่ผู้บริหารคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยทางผู้บริหารต้องการที่จะรอดูช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้าก่อนว่ากำลังซื้อจะอ่อนลงอันเป็นผลจากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นหรือไม่
นอกจากนี้ ผลของภาวะน้ำท่วมทำให้ SC ได้มีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ของปี 54 จำนวน 4 โครงการไปเปิดในปี 55 แทน จึงทำให้ปีหน้ามีการเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ มูลค่าประมาณ 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท และส่วนมากจะเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี ดังนั้นคาดว่าผลประกอบการจะปรับตัวสูงขึ้น ส่วนปีนี้ SC คงเปิดโครงการใหม่เพียงแค่ 5 โครงการเท่านั้น จากเดิมตั้งไว้ 9-10 โครงการ โดยเปิดไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ 2 โครงการ และเปิดในไตรมาส 4/54 อีก 3 โครงการ
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 1,165 ล้านบาท ส่วนปี 2555 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,487 ล้านบาท
ส่วนนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ในเชิงกลยุทธ์ยังคงเชียร์หุ้น SC เนื่องจาก Valuation ยังต่ำอยู่ในขณะนี้ ปัจจุบันมีการเทรดในระดับค่า P/E ปี 54 แค่ 6.9 เท่า และเมื่อคิด P/E ปี 55 เทรดแค่ 5.9 เท่า ซึ่งในระดับการเทรดด้วย P/E แค่ 5-6 เท่าถือว่าต่ำ
นอกจากนี้ อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ค่อนข้างต่ำแค่ 0.38 เท่า และยังให้ปันผลสูง โดยคาดว่าปี 54 จะให้ Divident Yield 6.2% ส่วนปี 55 จะให้ 7.6% ทั้งนี้ ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นนี้จะเห็นได้ว่าโครงการของ SC จะไม่โดนน้ำท่วมเลย ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำให้มีผู้สนใจซื้อมากขึ้น
พร้อมคาดการณ์รายได้ในปี 55 ไว้ที่ 9,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 7,876 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปี 55 ไว้ที่ 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,276 ล้านบาท