นายหรรสา สุสายัณห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า บริษัทได้รับงานบริหารจัดการเงินส่วนกลางในรูปแบบกองทุนของนิติบุคคลอาคารชุดโครงการ"ดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน"มูลค่า 630 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผลตอบแทน 5-6% ต่อปี ซึ่งจะรองรับค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่อปี 30-40 ล้านบาท ขณะเดียวกันเจ้าของโครงการจะมีเงินอีก 1 พันล้านบาทที่พร้อมจะสมทบเข้ากองทุนหากผลตอบแทนไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ บริษัทเข้ามาบริหารจัดการการลงทุน เพื่อให้เกิดผลตอบแทนครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนกลางในแต่ละปี และอาจเก็บสะสมไว้เป็นเงินทุนเพิ่มเติม โดยหลักในการบริหารเราจะมุ่งให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ด้วยการผสมผสานการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารการเงินที่ออกโดยสถาบันการเงินและบริษัทที่มีความมั่นคงสูง ตลอดจนหุ้นพื้นฐานที่มีปันผลดี เป็นต้น
จากสถิติอัตราผลตอบแทนสะสมของ บลจ.บัวหลวง ในช่วงปี 46-53 นั้น กองทุนหุ้นให้ผลตอบแทน 14.81% กองทุนผสมหุ้น(50%)ให้ผลตอบแทนให้ผลตอบแทน 8.23% กองทุนผสมหุ้น(20%)ให้ผลตอบแทน 4.57% และ กองทุนตราสารหนี้ให้ผลตอบแทน 2.90 %
อนึ่ง "ดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน"เป็นโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ติดทะเลของบริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด มูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท ให้ข้อเสนอใหม่ครั้งแรกในไทยด้วยการจ่ายค่าส่วนกลางปีแรกครั้งเดียว พร้อม The Energy Point เพื่อเลือกรับบริการฟรีในโครงการได้ทุกปี และได้รับสิทธิเป็นสมาชิกสปอร์ตคอมเพล็กซ์ฟรีตลอดชีพ ราคาขายเริ่มต้น 1.8 ล้านบาท
นายมณเฑียร อินทร์น้อย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านราชประสงค์ จำกัด เปิดเผยว่า โครง"ดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน"มีจำนวน 6 พันยูนิต จะเริ่มก่อสร้างในปี 55 และจะแล้วเสร็จในปี 5 คาดว่าจะได้รับความสนในเนื่องจากเป็นโครงการที่ติดชายทะเล ประกอบกับความต้องการที่อยู่อาศัยสำรอง โดยเฉพาะจากสถานการณ์น้ำท่วม
"การพัฒนาโครงการนี้ เป็นโครงการใหม่ที่เรานำเงินส่วนกลางของลูกค้าที่ซื้อ มาให้กองทุนบริหาร เพราะมองว่าน่าจะสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าเรา และเป็นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเรามั่นใจว่า ดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน จะได้รับความสนใจ ตอบรับดี ตอนนี้ติดต่อเข้ามา 2-3 พันรายซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิม"นายมณเฑียร กล่าว