ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวทางการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการสกัดกั้นการลุกลามของปัญหาหนี้ รวมถึงการไม่ประกาศซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 63.14 จุด ปิดที่ 5,483.77 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลงหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีเปิดเผยว่า อีซีบียังไม่มีแผนที่จะเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม และการที่อีซีบีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ ก็เป็นมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ อีกทั้งยังส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในระยะใกล้นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนผิดหวังต่อแผนการกู้วิกฤตหนี้ยูโรโซนของอีซีบี
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบและโลหะในตลาดโลก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลง 3.11% และดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 2.24%
อย่างไรก็ตาม หุ้นบริษัทบริติช อเมริกัน โทแบคโค พุ่งขึ้น 1.5% ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี FTSE 100 ส่วนหุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค ดีดขึ้น 0.7%
ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และวิกฤตหนี้ยูโรโซน นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ตัดสินใจที่จะไม่ขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 2.75 แสนล้านปอนด์