หุ้น KK ราคาลดลง 2.72% มาอยู่ที่ 35.75 บาทลดลง 1.00 บาทมูลค่าการซื้อขาย 158.38 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 35.25 บาทราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 36.00 บาทและราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 35.25 บาท
ราคา PHATRA ลดลง 2.90 % มาอยู่ที่ 33.50 บาทลดลง1.00 บาทมูลค่าการซื้อขาย 6.31 ล้านบาทโดยเปิดตลาดที่ 33.50 บาทราคาปรับตัวขึ้นสูงสุด 33.50 บาทและราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 33.00 บาทเมื่อเวลา 10.00 แนะนำขายทำกำไร KK และ PHATRA ราคาหุ้น
บทวิเคราะห์ บล.เอเชียพลัส แนะ"ขายทำกำไรระยะสั้น"สำหรับหุ้นธนาคารเกียรตินาคิน(KK) และเช่นเดียวกับผู้ที่ถือหุ้น บมจ.ทุนภัทร(PHATRA) ณ ราคาตลาดถือว่ามีค่า Expected PER ปี 2555 ที่ 13 เท่า ถือว่าเต็มมูลค่าหุ้นแล้ว จึงแนะนำให้ขายทำกำไรระยะสั้น
แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวสามารถถือหุ้น KK ต่อไป เช่นเดียวกับ PHATRA สามารถนำไปแลกหุ้นของ KK ตามกรอบเวลาที่กำหนด เพราะคาดว่าหลังจากควบรวมเสร็จสิ้น KK จะกลายเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ทำธุรกิจการเงินครบวงจร(Universal Banking)ที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่งของประเทศ เพราะสามารถใช้จุดแข็งของ PHATRA ในการทำธุรกิจหลักทรัพย์ทั้ง Broking และ Investment Banking เมื่อผนวกกับจุดแข็ง KK ในเรื่องขนาดของเงินกองทุนที่สูงถึง 15% ของสินทรัพย์เสี่ยง ถือว่าเป็นการควบรวมที่ก่อให้เกิดขลุมพลังในการขับเคลื่อนในการทำธุรกิจในระยะยาว และ KK จะมี Market cap ใหญ่เกือบ 30,000 ล้านบาท
ด้านบทวิเคราะห์บล.ดีบีเอสฯ แนะนำ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น KK มองว่าการควบรวมกิจการ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจให้ดีขึ้น เพราะฐานทุนที่ใหญ่และแข็งแกร่งจะทำให้มีโอกาสขยายธุรกิจมากขึ้น การให้บริการลูกค้าหลากหลายเพิ่มขึ้น เพราะสององค์กรมีฐานลูกค้าและเครือข่ายแตกต่างกัน โดยคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดด้านหลักทรัพย์จะเพิ่มเป็นกว่า 5% (อันดับ 2 ของตลาด) และมีสินทรัพย์ของลูกค้าภายใต้การบริหารมากกว่า 2 แสนล้านบาท
ผู้บริหาร KK คาดว่าการรวมกิจการครั้งนี้จะแล้วเสร็จในช่วง 2Q-3Q55 โดยมีเป้าหมายจะถือหุ้น PHATRA ไม่น้อยกว่า 75% และหลังการทำเทนเดอร์ฯ KK จะนำ PHATRA ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้ง KK ถือหุ้น PHATRA จากการทำเทนเดอร์ฯได้มากกว่า 90% และ KK จะโอนหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดในบล.เกียรตินาคินและบลจ.เกียรตินาคินให้กับ PHATRA
ขณะเดียวกันหลังจากที่ KK ได้ควบรวมกับ PHATRA แล้ว มีโอกาสจะซื้อขายที่ P/BV สูงขึ้น(ปัจจุบัน KK ซื้อขายที่ P/BV 1.04 เท่า) เพราะโอกาสในการขยายธุรกิจมีมากขึ้น ความสามารถในการทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งทาง KK และ PHATRA จะทำการแลกหุ้นกัน โดย KK จะเพิ่มทุนใหม่มาแลกกับหุ้นของ PHATRA ในสัดส่วน 0.9135 หุ้นเพิ่มทุนใหม่ KK แลกกับหุ้น 1 หุ้น PHATRA ผ่านการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้น PHATR
ทั้งนี้ ประเมินเบื้องต้นมูลค่าของหุ้น KK หลังควบรวมกับ PHATRA เมื่ออิงกับความสำเร็จในการทำเทนเดอร์ฯที่ 75-100% พบว่า KK จะต้องเพิ่มทุนเพื่อแลกเป็นหุ้น PHATRA 144-192 ล้านหุ้น ซึ่งจะเกิด Dilution effect กับหุ้น KK เท่ากับ 18.5-23.2% และมูลค่าหุ้นทางบัญชี (BVS) ของ KK หลังเพิ่มทุนจะเท่ากับ 31.29-32.11 บาทต่อหุ้น จึงแนะ"เก็งกำไร"