นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจผลกระทบจากเหตุอุทกภัยและข้อเสนอแนะต่อภาครัฐของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ด้วยการส่งแบบสอบถามให้กับ บจ.500 แห่ง และมีการตอบกลับมา 198 แห่ง พบว่า 90% ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ซึ่งเป็นผลกระทบโดยตรง 38% และส่วนใหญ่ยอมรับว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 4/54 โดยความเห็น 55% เห็นว่าจะกระทบรายได้น้อยกว่า 20% ขณะที่ 17% ส่งผลกระทบต่อรายได้ 20-40% และความเห็น 16% ได้รับผลกระทบต่อรายได้มากกว่า 40%
อย่างไรก็ตาม บจ.ส่วนใหญ่เชื่อว่าผลกระทบต่อผลประกอบการจะเป็นในช่วงสั้นๆ คือ ในไตรมาส 4/54-ไตรมาส 1/55 และความเห็นส่วนใหญ่ 61% มองว่าเหตุอุทกภัยจะกระทบต่อผลประกอบในปี 55 น้อยกว่า 10%
ทั้งนี้ บจ. 88% จะไม่มีการลดจำนวนพนักงาน และมีความพร้อมในการฟื้นฟูธุรกิจหลังเกิดอุทกภัย โดย บจ. 82 แห่งที่ได้รับผลกระทบ มีจำนวน 57 แห่งที่มีความสามารถในการฟื้นฟูธุรกิจโดยกระแสเงินสด คาดว่าต้องใช้เงินในการฟื้นฟูเฉลี่ยบริษัทละ 87 ล้านบาท
ส่วนข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ บจ.ราว 85% ต้องการให้รัฐบาลผลักดันโครงการป้องกันน้ำท่วมรุนแรงในอนาคตและให้เห็นเป็นรูปธรรม และ 73% ต้องการให้รัฐบาลดภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเป้าหมาย คือ ปี 55 เหลือ 23% และปี 56 เหลือ 20% ความเห็น 55% ต้องการให้รัฐบาลเลื่อนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท และ 49% เห็นว่าควรเลื่อนการขึ้นเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาทออกไปก่อน
ด้านนายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ในปี 55 เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยในและต่างประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศน่าจะส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่า จากปัญหาหนี้สินยุโรป และปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐ น่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยในประเทศมีความกังวลปัญหาการเมืองที่จะเป็นตัวแปรกระทบตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ในปี 55 ผลตอบแทนของ บจ.จะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากเหตุอุทกภัย ส่งผลกระทบในช่วงสั้นกว่าที่คาด และบจ.หลายแห่งสามารถฟื้นฟูกิจการได้เป็นปกติแล้ว ดังนั้น เชื่อว่า บจ.จะกลับมามีผลประกอบการที่แข็งแกร่งได้
นางสาวธริศา ไชยสุนทรโยธิน ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ในไตรมาส 4/54 จะมี บจ.ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม คือ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ อาจทำให้ บจ.บางแห่งต้องประสบกับการขาดทุนได้ แต่มองว่าน่าจะเป็นผลกระทบในช่วงสั้นๆ ส่วน บจ.อื่นๆ จะได้รับผลกระทบไม่มาก
ทั้งนี้ปี 55 มองเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ในอัตรา 4-5% โดยปัจจัยที่มีผลต่อตลาดหุ้น คือ การฟื้นฟูหลังเกิดน้ำท่วม ภาวะเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล