ทริสฯ ให้เครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน-องค์กร CPF ที่ AA- แนวโน้ม Stable

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 14, 2011 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาทของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ที่ระดับ “AA-" พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ ของบริษัทที่ระดับ “AA-" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่" เช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ในการลงทุนตามแผน

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ตลอดจนการมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย ความสำเร็จของกลยุทธ์ที่เปลี่ยนไปเน้นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่มีตราสัญลักษณ์ของบริษัท การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทที่ค่อนข้างต่ำ รวมถึงความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจเกษตรอาหารที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าความได้เปรียบจากการเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสินค้าและตลาดที่หลากหลายน่าจะช่วยทำให้บริษัทมีผลกำไรที่สม่ำเสมอมากขึ้น ทั้งนี้ การที่บริษัทให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคน่าจะช่วยลดความผันผวนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัทลงได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า CPF เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารรายใหญ่ที่สุดในประเทศ โดย ณ เดือนมีนาคม 2554 กลุ่มบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ถือหุ้นในบริษัท 42.14% ธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือกลุ่มสัตว์บกและกลุ่มสัตว์น้ำ โดยแต่ละกลุ่มประกอบด้วยธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์ม และธุรกิจอาหารพร้อมบริโภค การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรส่งผลให้สินค้าของบริษัทได้มาตรฐานสากลทั้งในด้านความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับซึ่งสามารถส่งออกไปยังประเทศผู้นำเข้าหลักซึ่งได้แก่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป เอเชีย และประเทศสหรัฐอเมริกา

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจฟาร์มคิดเป็น 43% ของยอดขายรวม รองลงมาเป็นธุรกิจอาหารสัตว์ 38% และธุรกิจอาหารพร้อมบริโภค 19% เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเพื่อสร้างเสถียรภาพของกระแสเงินสด บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภคที่มีตราสัญลักษณ์ของบริษัทและการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารพร้อมบริโภคให้เป็น 20% ของยอดขายรวมภายในปี 2558 พร้อมทั้งลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจฟาร์มซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ลง

นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายแล้ว บริษัทยังขยายกิจการในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องอีกหลายแห่ง โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกิจการในต่างประเทศเป็น 63% ของยอดขายรวมภายในปี 2558 เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศแผนซื้อหุ้น 74.18% ใน C.P. Pokphand Co., Ltd. (CPP) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์บกและสัตว์น้ำชั้นนำในประเทศจีนและเวียดนามด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 2,174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังการซื้อหุ้นเสร็จสิ้น สัดส่วนรายได้จากกิจการในต่างประเทศของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 50% ของยอดขายรวมจาก 26% ในปี 2553

ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยยอดขายของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยอยู่ที่ระดับ 153,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% จากช่วงเดียวกันของปี 2553 อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทยังอยู่ในระดับสูงที่ 17.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 ส่วนกำไรสุทธิซึ่งไม่รวมกำไรจากการขายเงินลงทุนนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 12,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2553 จากผลของราคาเนื้อสัตว์ที่อยู่ในระดับสูงและการบริหารจัดการวัตถุดิบธัญพืชที่มีประสิทธิภาพเป็นสำคัญ โดยบริษัทมีการจัดหาวัตถุดิบที่สำคัญและทำสัญญาซื้อล่วงหน้าเพื่อเป็นการควบคุมต้นทุน ณ เดือนกันยายน 2554

บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ระดับ 45.0% หลังการลงทุน อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างทุนจะปรับตัวสูงขึ้นและอยู่ในระดับ 50%-55% เนื่องจากบริษัทมีแผนจะกู้ยืมในสัดส่วนประมาณ 60% ของมูลค่าการลงทุนเพื่อซื้อหุ้น CPP อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะทยอยลดลงหลังจากที่บริษัทรับรู้กำไรจากผลการดำเนินงานของ CPP อย่างสมบูรณ์แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ