หุ้น TUCC ราคาร่วงลง 12.50% หลังตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย SP เช้านี้ โดยมาอยู่ที่ 0.42 บาท ลดลง 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 380,000 บาท เมื่อเวลา 12.11 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.44 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.45 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.39 บาท
บมจ.ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์(TUCC)และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/54 ขาดทุนสุทธิ 139.84 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.46 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 11.24 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.04 บาท
พร้อมชี้แจงว่า ผู้สอบบัญชีมีความเห็นว่าไม่อาจสรุปรายงานการสอบทานงบการเงินได้ว่า งบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปหรือไม่ จากการสอบทานบริษัทจึงเห็นควรชี้แจงประเด็นของผู้สอบบัญชีดังรายละเอียดต่อไปนี้
ผู้สอบบัญชี มองว่า บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานติดต่อกันมาหลายปี โดยบริษัทมีขาดทุนสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 จำนวนเงิน 282.08 ล้านบาทและจำนวนเงิน 321.22 ล้านบาท ในงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะของบริษัทตามลำดับ และ ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 บริษัทขาดทุนสะสมในงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัทจำนวนเงิน 243.76 ล้านบาท และจำนวนเงิน 284.06 ล้านบาท ตามลำดับ และมีหนี้สินหมุนเวียนรวมสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนรวมในงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะบริษัท จำนวนเงิน 704.47 ล้านบาท และจำนวนเงิน 550.20 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัทชี้แจงว่า ตามจดหมายที่เคยแจ้ง ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2554 บริษัทประสบผลขาดทุนตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและราคาวัตถุดิบที่ลดลง ประกอบกับการจ่ายคืนเงินกู้ยืมตั้งแต่ปี 2552 จนถึงไตรมาส 1 ปี 2554 จึงเป็นผลทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องทางการเงิน อีกทั้งบริษัทอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างทางการเงินกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ดังนั้นบริษัทจึงไม่สามารถมีวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตและสร้างรายได้ตามประมาณการที่กำหนดไว้
ปัจจุบันบริษัทกำลังติดตามผลจากการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารอยู่ พร้อมทั้งลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงการมองหาแหล่งเงินทุนรายอื่นๆ เพื่อนำมาใช้ในการซื้อวัตถุดิบและสร้างรายได้ให้กับบริษัท
ผู้สอบบัญชี มองว่า บริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 3 แห่ง และบริษัทอื่น อีก 1 แห่ง บริษัทอยู่ระหว่างการปฏิบัติตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินสองแห่งและอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถทราบได้ว่าผลการเจรจาจะเป็นอย่างไร
บริษัทชี้แจงว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา ส่วนสถาบันการเงินอีก 2 แห่ง บริษัทได้รับการอนุมัติให้มีการขยายระยะเวลาการจ่ายชำระออกไปอีกประมาณ 1 ปี
ผู้สอบบัญชี มองว่า บริษัทยังมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติตามระบบการควบคุมภายในที่ดี เกี่ยวกับระบบการขายเชื่อ การซื้อวัตถุดิบจากผู้ขายบางรายที่มีเอกสารประกอบไม่เหมาะสมและมีการจ่ายชำระค่าวัตถุดิบแก่ผู้ขายบางรายเป็นเช็คเงินสด ซึ่งอาจมีผลต่อการแสดงรายการและมูลค่าของงบการเงินโดยรวม
บริษัทชี้แจงว่า ในไตรมาส 2 บริษัทมีการซื้อวัตถุดิบและสินค้าด้วยเช็คเงินสด เนื่องจากในวงการธุรกิจการซื้อวัตถุดิบประเภทนี้มีจ่ายชำระเป็นเช็คเงินสด แต่หลังจากที่ทางผู้สอบบัญชีได้มีข้อเสนอแนะถึงข้อบกพร่องในการควบคุมภายในของรายการดังกล่าวนี้ ทางบริษัทก็ไม่มีการจ่ายชำระเป็นเช็คเงินสด มีแต่การจ่ายชำระสินค้าด้วยเช็คที่ระบุชื่อผู้รับทุกรายการจนถึงปัจจุบัน