ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) โดยแรงบวกในการซื้อขายช่วงแรกได้อ่อนแรงลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปได้ถูกจุดปะทุขึ้นอีก หลังจากที่ฟิทช์ เรทติงส์ เตือนว่าอาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหกประเทศในยุโรป
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับลง 2.42 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 11,866.39 จุด ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.91 จุด หรือ 0.32% แตะที่ 1,219.66 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 14.32 จุด หรือ 0.56% แตะที่ 2,555.33 จุด
ตลาดเปิดในแดนบวก เนื่องจากความหวั่นเกรงเรื่องวิกฤตการเงินในยูโรโซนได้ผ่อนคลายลงประมาณหนึ่ง รวมถึงนักลงทุนยังคงขานรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด โดยเฉพาะเมื่อวันพฤหัสบดีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของตลาดแรงงานสหรัฐ
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนพฤศจิกายน ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับเดียวกับเดือนก่อน หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง สอดคล้องกับมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม
รายงานของกระทรวงฯ ระบุว่า ดัชนีซีพีไอเดือนพฤศจิกายนยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับเดิม หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนตุลาคม ส่วนดัชนีซีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพฤศจิกายน ส่งสัญญาณว่ามีแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่เพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม หุ้นได้อ่อนตัวลงในเวลาต่อมา หลังจากที่ฟิทช์ เรทติงส์ ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอีกหกประเทศในยุโรป ได้แก่ สเปน อิตาลี เบลเยียม ไอร์แลนด์ สโลวีเนีย และไซปรัส โดยระบุว่า ทางออกที่ครอบคลุมสำหรับวิกฤตหนี้ในภูมิภาคนั้น ยังอยู่ห่างไกลเกินเอื้อม ทั้งในทางเทคนิคและการเมือง
หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชั่น ดิ่งลง 11% หลังจากที่บริษัทประกาศเลื่อนการเปิดตัวแบล็กเบอร์รี่รุ่นใหม่ออกไปจากกำหนดการเดิมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 นอกจากนี้ บริษัทยังได้คาดการณ์ยอดขายและกำไรซึ่งต่ำกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์
หุ้นซิงกา ผู้ผลิตเกมรายใหญ่สุดสำหรับเฟซบุ๊ก ร่วงลง 5% ในวันแรกของการซื้อขายในตลาด