สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 49,863 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 48,007 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 96% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 1,032 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 3 ปี และ 4 ปี (LB145B LB155A และLB15DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 782 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 793 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC14DA, PTTC153A) และหุ้นกู้ของบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) (MAJOR126A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 606 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 14,675 ล้าน กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 3,614 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิ 411 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 Basis Point ในตราสารระยะกลางช่วงอายุ 3 — 5 ปี ซึ่งในช่วงนี้ตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างเงียบ เนื่อจากเป็นช่วงใกล้ปลายปี สำหรับนักลงทุนต่างประเทศ มีแรงขายตราสารหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ยุโรปเป็นหลัก
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.15% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคที่ 3.08% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% จากวันก่อนหน้า