ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 337.32 จุดรับข้อมูลศก.สหรัฐ,สเปน,เยอรมนี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 21, 2011 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) ขานรับข่าวรัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนด้วยการขายตั๋วเงินคลังได้สูงกว่าเป้า ด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวลดลงในการประมูลเมื่อวานนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่แข็งแกร่งของเยอรมนี และรายงานตัวเลขสร้างบ้านของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 337.32 จุด หรือ 2.87% ปิดที่ 12,103.58 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 35.95 จุด หรือ 2.98% ปิดที่ 1,241.30 จุด ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 80.59 จุด หรือ 3.19% ปิดที่ 2,603.73 จุด

ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับข่าวรัฐบาลสเปนสามารถจำหน่ายตั๋วเงินคลังมูลค่า 5.64 พันล้านยูโร (ราว 7.36 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งมากกว่าเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้ โดยให้อัตราผลตอบแทนสำหรับตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนที่ 1.735% ลดลงเมื่อเทียบกับการประมูลเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ 5.11% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปน ลดลงเมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ 6.78% ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังพุ่งขึ้นขานรับรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 107.2 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 106.6 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และ GfK ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในระดับที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับในเดือนม.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนและผู้บริโภคยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของเยอรมนี

นักวิเคราะห์จากเอสแอนด์พี แคปิตอลกล่าวว่า ความสำเร็จในการขายตั๋วเงินคลังของสเปนช่วยลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป เนื่องจากสเปนเป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังประสบปัญหาหนี้ ซึ่งการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสะท้อนให้เห็นว่า ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลสเปนปรับตัวลดลงด้วย

จากนั้นดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นอีกกว่า 1% เมื่อเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 9.3% แตะระดับ 685,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 635,000 ยูนิต

การปรับตัวลงของต้นทุนการกู้ยืมของสเปนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐดีดตัวขึ้น หลังจากที่หุ้นดังกล่าวร่วงลงอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการเพิ่มสำรองเงินทุนในภาคธนาคาร โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ทะยานขึ้น 4.9% และหุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.6%

ส่วนหุ้นไนกี้พุ่งขึ้น 1.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 2.6%

นักลงทุนจับตาดูการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ครั้งสุดท้ายของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรมาส 3 จะขยายตัว 2.0% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อน

ส่วนในคืนนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 5.05 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.97 ล้านยูนิตของเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ