หุ้น CHOW ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 3.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท(+7.33%)จากราคาขาย IPO ที่ 3.00 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 672.21 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.24 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.36 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.22 บาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า หุ้นบมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW)ที่ราคา IPO 3 บาท เมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชีที่ 1.64 บาท จะซื้อขาย P/BV ปี 2554 ค่อนข้างสูงถึง 1.83 เท่า ทั้งนี้ ราคา IPO ซื้อขาย P/BV สูงกว่าหุ้นเหล็กทั้งในและต่างประเทศ โดยหุ้นในกลุ่มเหล็กทั่วโลกในปีนี้ตกต่ำหนัก หลัก ๆ เกิดจากจีนคุมเข้มอสังหาริมทรัพย์ โดยความต้องการเหล็กในจีนคิดเป็น 45% ของโลก และ ยังมีปัญหาเศรษฐกิจของยุโรป ในขณะที่สหรัฐฯไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ หุ้นเหล็กชั้นนำของโลกเฉลี่ยแล้วจะซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง 0.79 เท่า และในกลุ่มเหล็ก 5 อันดับแรกของโลก ล้วนซื้อขายที่ P/BV ต่ำ คือ ArcelorMittal 0.44 เท่า, Baosteel 0.79 เท่า, POSCO 0.84 เท่า, Nippon Steel 0.64 เท่า และ JFE 0.52 เท่า เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มเหล็กที่ซื้อขายในตลาดของไทย ก็ซื้อขายที่ P/BV เฉลี่ยเท่ากับ 0.55 เท่า
CHOW มีผลประกอบการตกต่ำติดต่อกันมา 3 ปี คือ ปี 2551 มีกำไรสุทธิ 9 ล้านบาท ปี 2552 ขาดทุนสุทธิ 173 ล้านบาท และ ปี 2553 มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท โดยผลประกอบการเพิ่งพลิกมาโดดเด่นสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2554 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 169 ล้านบาท ได้แรงหนุนจากยอดขายพุ่งขึ้น 57% เป็น 4,243 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นเป็น 7.6% จาก 4% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 25% เหลือ 81 ล้านบาท
ก่อนการขายหุ้น IPO ณ สิ้น 3Q54 CHOW มีภาระหนี้ที่สูงถึง 1,562 ล้านบาท เทียบกับส่วนทุน 685 ล้านบาท หรือ คิดเป็นหนี้ต่อทุน 2.3 เท่า เราประเมินหลังจากขาย IPO ภาระหนี้ต่อทุนจะลดลงเหลือประมาณ 0.91 เท่า