นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ทิศทางราคาทองคำขณะนี้ มีการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่อิงกับเงินสกุลยูโร สังเกตุได้จากความสัมพันธ์ของราคาทองคำกับค่าเงินสกุลยูโรซึ่งในระดับ 10 วัน อยู่ที่ 90% ขึ้นไป ทำให้กระแสข่าวทางฝั่งยุโรปค่อนข้างที่จะมีความสำคัญต่อราคาทองคำอย่างมากในช่วงนี้
แต่ทั้งนี้ยากต่อการคาดการณ์ ทำให้ในระยะสั้นราคาทองคำยังคงมีความผันผวนตามกระแสข่าวยุโรปเป็นหลัก ซึ่งคาดการณ์กรอบการเคลี่อนไหวระหว่าง 1,550-1,680 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 23,000-25,000 บาท/บาททองคำ
ทิศทางการลงทุนทองคำจากนี้จนถึงสิ้นปี มองว่ายังเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าทยอยซื้อสะสมสำหรับการลงทุนในระยะกลางและระยะยาว เนื่องจากราคาปรับตัวลดลงมามากจากปัญหาหนี้ยุโรปที่กดดันอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวค่อนข้างรุนแรงและปรับตัวลงกว่า 145 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,559 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ทองคำแท่งในประเทศทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 23,650 บาทต่อบาททองคำเช่นเดียวกัน
ประกอบกับ สถิติในช่วงปี 52-53 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำในช่วงปลายปีจนถึงต้นปี มักจะมีการปรับตัวลงในช่วงปลายปีเป็นลักษณะของการปรับฐานของราคาทองคำ แต่หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ ทิศทางของราคาทองคำจะกลับตัวเปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้น
นางพวรรณ์ กล่าวว่า ในปีนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากวัดจากต้นปีจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 35.20% แม้ว่าจะเกิดแรงขายบางช่วงเวลาที่ทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาบ้าง แต่เชื่อว่าราคาทองคำในสิ้นปีนี้จะสามารถยืนเหนือ 1,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 24,210 บาทต่อบาททองคำได้ ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ 16.45% มากกว่าการลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตร
สำหรับในปีหน้าวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำจะยังมีความน่าสนใจไม่แพ้กับในปีนี้ เนื่องจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรป และสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งวายแอลจีเชื่อว่าราคาทองคำจะมีความผันผวนจนสามารถจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทองคำมากขึ้น
ทิศทางราคาทองคำในปี 55 ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว โดยในช่วง 3 เดือนแรกคาดการณ์ว่าราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานราคา ประเมินกรอบราคา 1,460—1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 21,400-27,200 บาทต่อบาททองคำ และคาดว่าราคาจะค่อยๆขยับตัวขึ้นในลักษณะ sideway up จนถึงปลายปี ซึ่งประเมินกรอบราคาถึงปลายปี 55 ที่บริเวณ 1,600—2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 23,500-29,370 บาทต่อบาททองคำ