PTT เพิ่มกำลังจ่ายก๊าซ NGV รวมเป็น 1,425 ตัน/วันในปี 55,ขยายสถานีลูก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 22, 2011 17:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ. ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ในปี 2555 นี้ ปตท. มีแผนจะขยายจำนวนสถานีบริการ NGV เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้ NGV อย่างทั่วถึง โดยจะเป็นการเพิ่มจำนวนสถานีลูก (Daughter Station) และการขยายกำลังการผลิตของสถานี NGV หลัก (Mother Station/สถานีแม่) ในปัจจุบันให้มีกำลังการจ่ายก๊าซเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเดือนม.ค. — มิ.ย. 55 เพิ่มกำลังการจ่ายก๊าซอีก 900 ตันต่อวัน

และช่วงปลายปี 55 จะสามารถขยายกำลังการผลิตของสถานีหลัก NGV อีกจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ สถานี NGV หลักที่ ลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร , สถานี NGV หลักจะนะ จังหวัดสงขลา , สถานี NGV หลักน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และสถานี NGV หลักเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้เพิ่มกำลังการจ่ายก๊าซอีก 525 ตันต่อวัน ซึ่งจะทำให้กำลังการจ่ายก๊าซรวม ในปี 55 เพิ่มมากขึ้นเป็น 1,425 ตันต่อวัน ส่งผลให้มีก๊าซ NGV ให้บริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง

นอกจากนั้นยังมีแผนเพิ่มจำนวนสถานีลูก (Daughter Station) จากปัจจุบันที่มีอยู่จำนวน 466 แห่ง เป็นกว่า 500 แห่ง ในปี 55 โดยใช้งบประมาณเพื่อขยายสถานี NGV หลัก รวมทั้งการปรับแผนการจ่ายก๊าซฯ ให้สอดคล้องระหว่างสถานี NGV หลัก กับสถานีลูก โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 980 ล้านบาท

และในอนาคตเมื่อมีการดำเนินการวางท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 4 ท่อนครสวรรค์ และท่อนครราชสีมา แล้วเสร็จในปี 57 และ 58 ตามลำดับ ก็จะสามารถขยายสถานีบริการบนแนวท่อฯ และสถานีแม่เพิ่มเติมได้อีก และเมื่อมีกำลังการผลิตของสถานีแม่เพิ่มขึ้น ก็จะสามารถเพิ่มสถานีลูกเพื่อให้ครอบคลุมในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการได้อย่างทั่วถึง

นายพีระพงษ์ กล่าวว่า จากความต้องการใช้พลังงานของประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคคมนาคมขนส่ง ทำให้ ปตท. จำเป็นต้องจัดหาพลังงานเพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานได้อย่างเพียงพอ และเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยสำหรับก๊าซธรรมชาตินั้น ปตท. จัดหาจากทั้งแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น สหภาพพม่า รวมถึงการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โดยโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติที่ ปตท. ซื้อจากผู้ผลิตฯ จะปรับตามราคาน้ำมันเตาที่เพิ่มสูงขึ้น , ดัชนีทางเศรษฐศาสตร์ และ อัตราการแลกเปลี่ยน ซึ่งโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติดังกล่าวกำกับดูแลโดยคณะกรรมการปิโตรเลียม

สำหรับต้นทุนก๊าซธรรมชาติ NGV ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนต้นทุนเนื้อก๊าซธรรมชาติ รวมค่าขนส่งทางท่อฯ และส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินการ ได้แก่ ค่าขนส่ง, ค่าเงินลงทุน และค่าดำเนินการทั้งสถานีแม่และสถานีลูก โดยต้นทุนเนื้อก๊าซธรรมชาติรวมค่าขนส่งทางท่อของ NGV อยู่ในระดับเดียวกับราคาก๊าซธรรมชาติที่จำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ต้นทุนเนื้อก๊าซธรรมชาติรวมค่าขนส่งทางท่อเฉลี่ยปี 54 อยู่ที่ประมาณ 9 บาทต่อกิโลกรัม และเมื่อรวมค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ได้เคยมีการศึกษา โดยสถาบันปิโตรเลียมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประมาณ 5.56 บาทต่อกิโลกรัม และบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว ต้นทุนของ NGV ปัจจุบันจึงอยู่ที่ประมาณ 15.58 บาทต่อกิโลกรัม

ขณะที่ปัจจุบัน ปตท.จำหน่าย NGV อยู่ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งในพื้นที่เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และเขตภูมิภาคที่อยู่ในรัศมี 50 กิโลเมตรจากสถานีหลัก ทำให้ ปตท. รับภาระขาดทุนสะสมตลอดมา ดังนั้นการปรับราคาจำหน่าย NGV ให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ตามนโยบายของรัฐบาล จะช่วยให้ ปตท. มีกำลังในการขยายการให้บริการ NGV ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนผู้ใช้ NGV ได้รับความสะดวกเพิ่มมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ