บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า นายกรัฐมนตรีไทยและรองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ลงนามหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ไทย-จีน 6 ฉบับ โดยจะมีส่วนที่เกี่ยวกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน คือ ความร่วมมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืนไทย-จีน การพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่และระบบรางอื่นๆ การพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำครบวงจร การวิจัย พัฒนาพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน หลังงานทดแทน สายที่มีความเป็นไปได้ในการสร้างมากที่สุดหลังเปลี่ยนรัฐบาลคือ สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา หรือเดิมคือสายกรุงเทพฯ-หนองคาย
รัฐบาลปัจจุบันมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาการสร้างรถไฟความเร็วสูงงแล้วระยะทาง 615 กิโลเมตร ทั้งนี้ไทยมีโอกาสที่จะได้ใช้บริการรถไฟความเร็วสูงช้ากว่าลาว เพราะหลังทำบันทึกความเข้าใจกับจีนและเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 2553 ลาวได้เริ่มก่อสร้างไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนกำหนดแล้วเสร็จในปี 2558 เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และทำให้อาจจะมีแรงซื้อเข้ามา"เก็งกำไร" คือ CK(ถือ:ราคาเป้าหมาย 9 บาท), ITD(ถือ:ราคาเป้าหมาย 4 บาท) และ STEC(ซื้อ:ราคาเป้าหมาย 15 บาท)
วานนี้(22 ธ.ค.)
หุ้น CK ปิดที่ 7.65 บาท ลดลง 0.05 บาท(-0.65%)
หุ้น ITD ปิดที่ 3.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท(+0.54%)
หุ้น STEC ปิดที่ 12.00 บาท ลดลง 0.30 บาท(-2.44%)