นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์(CPALL)กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ทำให้รายได้ของบริษัทในปี 54 เติบโตลดลงเหลือแค่ 13% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15% เนื่องจากสาขาร้าน 7-11 ต้องปิดให้บริการชั่วคราวถึง 700 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สาขาส่วนใหญ่ที่ปิดให้การได้ทยอยเปิดให้บริการได้เป็นส่วนใหญ่แล้วหลังระดับน้ำเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือเพียง 60 แห่งที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ทั้งหมดในปลายเดือน ม.ค.55 ซึ่งความเสียหายทั้งหมดบริษัทได้ทำประกันภัยครอบคลุมไว้หมดแล้ว คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมราว 1 ล้านบาท/สาขา
บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาร้าน 7-11 อีก 500 แห่งในปี 55 โดยใช้งบลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท และจัดสร้างคลังสินค้าใหม่เพิ่มอีก 1 แห่งในภาคตะวันออก ใช้เงินลงทุนราว 500 ล้านบาท ทำให้ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ซึ่งจะมาทั้งจากสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่
"จากปัญหาน้ำท่วม ทำให้เราต้องปรับตัว สาขาใหม่ที่จะสร้างก็ต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วม รวมถึงสร้างคลังสินค้าใหญ่เพิ่มเติมที่ภาคตะวันออก เพราะที่วังน้อย แม้น้ำจะไม่ท่วมเข้าพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้"นายปิยะวัฒน์ กล่าว
นายปิยะวัฒน์ มองว่า กำลังซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเชื่อว่ายังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง เพราะเป็นสินค้าจำเป็น แต่ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจอาจทำให้สินค้าฟุ่มเฟือยได้รับผลกระทบบ้าง ส่วนปัญหาการเมืองมองว่าจากนี้อาจจะมีเพียงการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เล็กน้อยเท่านั้น คงไม่ได้กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล