บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น(TTCL)คาดว่ารายได้ในปี 55 จะแตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีนี้ที่น่าจะมีรายได้ราว 7.5 พันล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทมีงานในมือ(backlog)แล้ว 2 หมื่นล้านบาท และเตรียมเข้าประมูลงานใหม่อีก 5 หมื่นล้านบาททั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดหวังว่าจะได้รับงานในส่วนนี้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรและรายได้ในอนาคต
ในวันนี้ TTCL ลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้นกับ บริษัท นวนคร แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(NLD)และ Korea Midland Power Co.,Ltd.(KOMIPO) ในความร่วมมือด้านธุรกิจพลังงานและโรงไฟฟ้าในอนาคต โดย NLD เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท นวนครการไฟฟ้า จำกัด(NNE)ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 110 เมกะวัตต์ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร
ทั้งนี้ TTCL ซึ่งเป็นผู้รับเหมางานออกแบบทางด้านวิศวกรรม, จัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์และการก่อสร้างโครงการโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจรก็จะเข้าร่วมในโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว นอกจากนั้นยังเตรียมจับมือกับ KOMIPO ประมูลโครงการโรงไฟฟ้าในภูมิภาคด้วย พร้อมกันนั้น บริษัทยังเตรียมร่างแผนงานที่จะเข้าร่วมโครงการทวายในประเทศพม่า เพื่อรองรับการลงทุนในระยะยาว
นายกอบชัย ธนสุกาญจน์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ TTCL กล่าวว่า ปี 55 รายได้ของบริษัทน่าจะแตะหลักหมื่นล้านบาท จากปีนี้มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายเติบโต 40% จากปีก่อน โดยปีหน้ารายได้จะมาจาก backlog ที่มีอยู่ ซึ่งขณะนี้มีแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท ในส่วนนี้จะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/54 กว่า 2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯในระยะต่อไป
อีกทั้งบริษัทมีโปรเจ็กต์สำคัญที่เตรียมประมูลงานใหม่อีก 5 หมื่นล้านบาททั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะได้งาน 2 หมื่นล้านบาท เป็นงานต่างประเทศ 60% คาดว่าจะรู้ผลการประมูลทั้งหมดในปี 55
ส่วนการจับมือกับ KOMIPO ซึ่งเป็นผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้นั้น โครงการแรกภายใต้ความร่วมมือคือโรงไฟฟ้านวนคร ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างนวนครแลนด์ และ TTCL มูลค่าลงทุน 6 พันล้านบาท คาดก่อสร้างเสร็จกลางปี 55 โดย TTCL ถือหุ้น 71% ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาว่า KOMIPO จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนเท่าใด ซึ่งในอนาคตธุรกิจโรงไฟฟ้า IPP และ SPP ในประเทศจะเติบโตสูงมาก เพราะความต้องการไฟฟ้าในไทยมีสูง บริษัทก็คงจะเข้าไปประมูลงานที่น่าสนใจได้มากขึ้น
ขณะที่การร่วมมือกันออกไปประมูลงานต่างประเทศนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาจะเข้าประมูลโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในภูมิภาค
สำหรับโครงการทวายในประเทศพม่าเป็นโครงการที่ใหญ่มาก การที่บริษัทมี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่นั้นน่าจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนสำคัญ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนหลัก(มาสเตอร์แพลน)ว่าจะลงทุนในด้านใดบ้างเพื่อรองรับการลงทุนในระยาวของบริษัท
นายกอบชัย กล่าวว่า บริษัทเปิดบริษัทย่อยใน 3 ประเทศ คือ พม่า มาเลเซีย และสหรัฐ โดยธุรกิจในมาเลเซียเมื่อเดือน ก.ค.54 ได้รับงานใหญ่เป็นการสร้างโรงแยกแร่ธาตุมูลค่า 6 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 1.8 พันล้านบาท,ปี 55 อีก 3.6 พันล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ฯในช่วงต้นปี 56 อีกทั้งคาดว่ายังมีงานที่มีศัยภาพในมาเลเซียอีกมาก
ด้านการขยายธุรกิจในสหรัฐนั้น บริษัทสนใจที่จะไปรับงานที่รัฐเท็กซัส โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจดทะเบียน
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ในประเทศ 40% ต่างประเทศ 60% ซึ่งในปี 55 ก็ยังเป็นสัดส่วนดังกล่าว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับงานในประเทศอยู่ที่เฉลี่ย 12-15% งานต่างประเทศ 15%