สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 67,856 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 64,726 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 95% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 2,234 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 4 ปี และ 10 ปี (LB155A LB15DA และLB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,410 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 769 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้บ้านปู (BANPU184A) หุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (BJC157A) และหุ้นกู้ของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (QH12DA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 509 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 18,714 ล้าน กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 4,296 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 3,226 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตราสารช่วงอายุคงเหลือ 1 — 5 ปี หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1— 2 Basis Point โดยภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ไทยในวันนี้ ค่อนข้างเงียบเนื่องจากเป็นช่วงปลายปี และยังไร้ซึ่งปัจจัยใหม่ๆที่มากระทบตลาด จึงส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้ในวันนี้ค่อนข้างเบาบาง
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.15% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.11% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% จากวันก่อนหน้า