ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันทำการวันสุดท้ายก่อนวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวก แม้ว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเชิงลบด้วยก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 124.35 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 12,294.00 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 11.33 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 1,265.33 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 19.19 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 2,618.64 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันอังคาร หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณขยายตัวในไตรมาส 4 นับตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ธันวาคม มีจำนวนอยู่ที่ 364,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน2551
ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา นักลงทุนขานรับข่าวดีที่ว่า สภาคองเกรสสหรัฐได้อนุมัติให้มีการต่อเวลามาตรการลดภาษีรายได้บุคคลและสวัสดิการสำหรับคนว่างงานออกไปอีก จากเดิมที่ทั้งสองมาตรการจะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า หากมาตรการทั้งสองหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ จะฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจถึง 1%
ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ขยายตัว 1.6% ในเดือนพฤศจิกายน แตะที่ 315,000 ยูนิต
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเชิงลบประกอบด้วย ยอดการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐที่ขยายตัวเพียง 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่รายได้ก็ขยับขึ้นแค่ 0.1% ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม รวมถึงข้อมูลอุปสงค์สินค้าทุนที่ปรับตัวลดลงเกินคาด