โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"SCC ซื้อหุ้น TPC ช่วยหนุนกำไรปี 55-เพิ่ม Synergy

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 26, 2011 10:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย(SCC)หลังบริษัทประกาศเข้าซื้อหุ้น บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์(TPC)เพิ่มจาก 45% เป็น 69% และต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดจะช่วยหนุนกำไรของบริษัทในปี 55 ได้อีก 500-1,000 ล้านบาท/ปี และยังเป็นการเพิ่ม Synergy ทางธุรกิจ โดยบริษัทมีนโยบายเดินหน้าลงทุนหรือซื้อกิจการต่อเนื่องตามแผนใช้เงินลงทุน 1.5 แสนล้านบาทภายใน 5 ปีจะทำให้กำไรของบริษัทเติบโตโดดเด่นมากขึ้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทในไตรมาส 4/54 ให้ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมบ้าง แต่ทั้งปี 54 คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 29,000 ล้านบาท และปีหน้าจะมีกำไรเพิ่มเป็น 33,000-35,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนต่างๆ

          โบรกเกอร์          คำแนะนำ            ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.เกียรตินาคิน        ซื้อ                    386.00
          บล.ฟินันเซียไซรัส       ซื้อ                    400.00
          บล.ดีบีเอสฯ           ซื้อ                    390.00
          บล.ทรีนิตี้             ซื้อ                    375.00
          บล.เอเซีย พลัส        ซื้อ                    436.00

นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า การที่ SCC อนุมัติให้ SCG เข้าซื้อหุ้น TPC เพิ่มเติมอีก 23% จากที่ถืออยู่ 45.64% จะช่วยหนุนผลกำไรของบริษัทเพิ่มมากขึ้นในปี 55 ในส่วนของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนคงต้องมีการประเมินหลังการทำเทนเดอร์แล้วเสร็จ

“การเข้าซื้อหุ้นไทยพลาสติกฯเพิ่มอีกแน่นอน แต่จะเห็นผลได้ชัดเจนในปีหน้า เพราะการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มดังกล่าวจะต้องมีการทำเทนเดอร์ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ซึ่งต้องดูว่า SCC จะเข้าถือเพิ่มมากกว่า 70% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่" นางสาววิชชุดา กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 54 คาดว่าจะลดลงจากเป้าหมายเดิมเล็กน้อย จากผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมต่อการขนส่ง และยอดการรับรู้รายได้ แต่ทั้งปีคาดว่าบริษัทจะมีกำไร 29,000 ล้านบาท ส่วนปี 55 คาดว่ามีกำไร 35,000 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมผลจากการซื้อหุ้น TPC เพิ่มเติม

นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า SCC จะรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นจากการเข้าถือหุ้นใน TPC อีกประมาณ 594 ล้านบาทในการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีก 23% แต่หากมีการเข้าทำเทนเดอร์ฯ ผู้ถือหุ้นรายอื่นได้อีกจะทำให้รับรู้กำไรได้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยการรับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นได้กล่าวจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 55 เป็นต้นไป

การที่บริษัทเข้าซื้อกิจการต่อเนื่องถือเป็นโยบายการลงทุนของบริษัทที่ตั้งเป้าลงทุน 1.5 แสนล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี พุ่งเป้าเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปจะเห็นรายได้และกำไรของบริษัทเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากผลของการเข้าลงทุน ซึ่งปีนี้บริษัทก็ได้เข้าลงทุนซื้อโรงงานปิโตรเคมี และธุรกิจจัดจำหน่ายในอินโดนีเซีย และล่าสุดการซื้อหุ้นเพิ่ม TPC คาดจะช่วยเพิ่ม Synergy ทางธุรกิจ

“มองว่าตอนนี้ปูนใหญ่ฯจะมองการลงทุนในการเข้าซื้อกิจการหรือเพิ่มการลงทุน เพราะให้ผลตอบแทนที่ดี เช่นกรณี TPC ที่มีกำไรปีละ ประมาณ 2,000 ล้านบาท และการซื้อหุ้นเพิ่มอีก 23% อย่างน้อยก็มีกำไรเพิ่มอีกอีก 400-500 ล้านบาทก็น่าจะเป็นผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่าเอาเงินไปฝากแบงก์"นายสุรชัย กล่าว

สำหรับผลประกอบการของ SCC ในปี 54 คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 29,431 ล้านบาท ลดลงจากเดิมเล็กน้อย เนื่องจากในไตรมาส 4/54 คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 5,000 ล้านบาท ลดลงจากภาวะปกติ เนื่องจากผลกระทบน้ำท่วมทำให้โรงงานหยุดการผลิตและขนส่งสินค้าไม่ได้ ส่วนในปี 55 คาดบริษัทมีกำไร 33,000 ล้านบาท เติบโต 14-15%

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่า SCC จะทำ tender offer หุ้น TPC ที่ 30 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสม และมองเป็นบวกกับ SCC ทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีครบวงจรมากยิ่งขึ้น กำไรจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านบาท/ปี หรือเพิ่ม 3% ยังคงแนะนำซื้อ SCC ราคาเป้าหมาย 400 บาท ส่วนผู้ถือหุ้น TPC แนะนำให้ตอบรับคำเสนอซื้อ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ