สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 53,346 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 51,994 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 97% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 565 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 2 ปี และ 4 ปี (LB133A LB155A และLB15DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 534 ล้านบาท หรือคิดเป็น 95% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 452 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) (PTTC14DA) หุ้นกู้ของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (HEMRAJ155A) และหุ้นกู้อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL16OB) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 242 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 21,480 ล้าน กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 3,578 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 5,489 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ค่อนข้างคงที่ตลอดทุกช่วงอายุของตราสารหนี้ โดยภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ไทยในวันนี้ ค่อนข้างเงียบเนื่องจากเป็นช่วงปลายปี และไร้ซึ่งปัจจัยใหม่ๆที่มากระทบตลาด สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อเข้ามาในตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง หลังจากข่าวที่ธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศว่าจะอัดฉีดสภาพคล่องแก่สถาบันการเงินในกลุ่ม EU
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.15% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.12%