ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลง 23 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 12,194 จุด และดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ร่วงลง 0.3% แตะที่ 1,256.50 จุด ณ เวลา 09.10 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่าราคาบ้านในสหรัฐร่วงลงเกินคาดในเดือนต.ค. และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีพุ่งขึ้นในวันนี้ ก่อนที่รัฐบาลจะเปิดประมูลขายพันธบัตรในวันพฤหัสบดีนี้
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ร่วงลง 1.2% ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.5% ส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะซบเซาอย่างมาก
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้ายังปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากราคาพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค. 2565 ปรับตัวลดลง 0.5% ในวันนี้ ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้น 0.09% แตะที่ 7.07%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีพุ่งขึ้นก่อนที่รัฐบาลอิตาลีจะประมูลขายตั๋วเงินคลังมูลค่า 9 พันล้านยูโร และตราสารหนี้ที่ไม่ระบุดอกเบี้ย (zero-coupon notes) ที่มีวงเงินสูงถึง 2 หมื่นล้านยูโร หรือ 2.61 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะประมูลขายพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2555 และ 2565 ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้
หุ้นเซียร์ส โฮลดิงส์ คอร์ป ดิ่งลง 17% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะปิดห้างเคมาร์ทจำนวน 120 สาขา ขณะที่หุ้นเมทไลฟ์ ปรับตัวลง 2.7% ฃ
ส่วนหุ้นมี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน พุ่งขึ้น ทางบริษัทยืนยันผลการทดสอบว่า ผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับเด็กทารกของมี้ด จอห์นสัน ไม่ได้ปนเปื้อนแบคทีเรียและผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว
นักลงทุนจับตาดูคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค.ในวันนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 58.3 จุดในเดือนธ.ค. จากระดับ 56.0 จุด ของเดือนพ.ย.