โบรกเกอร์เห็นฟ้องแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์(WORK)คาดผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 1/55 จากในไตรมาส 4/54 ที่ขาดทุนจากการลดงบโฆษณาในช่วงน้ำท่วม รวมทั้งย้าย 3 รายการจากช่อง 7 ไปที่ช่อง 3 และช่อง 5 ขณะที่มีรายการเดิมอยู่แล้ว 3 รายการ รวมเป็น 6 รายการ พร้อมทั้งปรับขึ้นค่าโฆษณา 7-10% ในปีหน้า
นอกจากนี้ บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ คือธุรกิจดาวเทียม และมีนโยบายที่จะรุกธุรกิจอีเว้นท์มากขึ้น มีภาพยนต์ 5 เรื่อง รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิในปี 55 จะเติบโต 20-29% จากปี 54
ขณะที่โบรกเกอร์เห็นว่าราคาหุ้น WORK ยังถูกมาก โดยซื้อขายบน P/E 8 เท่า สะท้อนว่านักลงทุนยังให้ความสนใจในตัวหุ้นไม่มาก ขณะที่ได้ปรับขึ้นราคาเป้าหมายให้ WORK ไปแล้ว
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท)
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 19.00
บล.ฟิลลิป ซื้อ 19.90
บล.บัวหลวง ซื้อ 18.50
บล.ฟินันเซียไซรัส ซื้อ 16.90
บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ถิอ 14.20
นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์ จากบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)แนะนำ"ซื้อ"หุ้น WORK เนื่องจากเห็นแนวโน้มธุรกิจ WORK ยังเติบโตได้ดี แม้ว่าจะย้ายรายการออกจากช่อง 7 ไปช่อง 3 และ ช่อง 5 ก็ตาม แต่การย้ายครั้วนี้ทำให้ปรับขึ้นค่าโฆษณาได้ รวมแล้วบริษัทได้รับการปรับขึ้นราคาโฆษณา รวม 6 รายการ ประมาณ 7-10% ที่มีผล 1 ม.ค.55
"เราแนะนำ"ซื้อ"เพราะค่าโฆษณาได้เพิ่มขึ้น และรายการของ WORK ยังแข็งแกร่ง อย่างรายการชิงร้อยชิงล้านเป็นรายการที่มีเรทติ้งดีอยู่แล้ว เวลาจะกลับมาโฆษณาใหม่ก็คงกลับมาเร็วกว่าคนอื่น"นายสยาม กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังรุกธุรกิจอื่นมากขึ้น ได้แก่ การจัดอีเว้นท์ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้มากขึ้น โดยในไตรมาส 1/55 คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจอีเว้นท์ประมาณ 120 ล้านบาท จากการจัด 2 งานของหน่วยงานภาครัฐ จึงทำให้คาดว่ารายได้ในปี 55 เติบโต 20% มาที่ 2,105 ล้านบาท และกำไรสุทธิคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 351.75 ล้านบาท หรือเติบโต 29%
ขณะที่ในปี 54 ภาพรวมยังถือว่าใช้ได้ แม้ว่าในไตรมาส 4/54 คาดว่าจะขาดทุน จาการตัดโฆษณาในช่วงน้ำท่วม เพราะในงวด 9 เดือนเติบโตอย่างมาก
ปี 55 บริษัทลดการจ่ายภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% จาก 30% เนื่องจากรัฐบาลปรับลดภาษีดังกล่าว ประกอบกับ WORK จะรุกเข้าทำธุรกิจดาวเทียม ซึ่งได้ทดลองออกอากาศแล้วและจะเริ่มมีโฆษณาเข้ามาใน ม.ค.55 รวมทั้งจะมีภาพยนต์ 5 เรื่อง จาก 3 เรื่องในปีนี้ และธุรกิจสิ่งพิมพ์ขยายหัวหนังสือเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้เติบโตได้ดี
ด้านนางสาวพรสุข อมรดีกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น WORK จาก 15.20 บาท เป็น 16.90 บาท และแนะ"ซื้อ"เนื่องจากคาดว่าในไตรมาส 1/55 จะเห็นผลประกอบการฟื้นตัวจากไตรมาส 4/54 ที่งบโฆษณาลดลง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ จากการได้ปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาประมาณ 7-10% จากรายการที่ย้ายจากช่อง 7 ไปช่อง 3 และช่อง 5 และยังมีรายได้จากธุรกิจอีเว้นท์ ประมาณ 100 ล้านบาท
"เรามีมุมมอง positive ย้ายช่องไปได้ เรทติ้งดีขึ้น อย่างชิงร้อยชิงล้านได้เวลาวันเสาร์เวลาบ่าย 3 โมง จากที่อยู่ช่อง 7 เป็นรายการดึก ก็จะได้ผู้ชมอีกกลุ่มหนึ่ง"นางสาวพรสุข กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปี 55 จะเติบโต 20% จากปี 54 ที่คาดว่าจะทำกำไรได้ 288 ล้านบาท
ขณะที่ บล.เกียรตินาคิน มองว่านักลงทุนกำลังประเมินศักยภาพหุ้น WORK ต่ำไป เพราะในสายตาของเรา WORK เป็นผู้ผลิตรายการทีวีซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็น King of Game Show มีรายการยอดนิยมมากมาย โดยปี 55 จะมี 6 รายการจากทั้งหมด 13 รายการที่อัตราค่าโฆษณาจะถูกปรับขึ้นตั้งแต่ 7-10% นอกจากนี้ ยังอาจจะได้เวลารายการใหม่เพิ่มอีก 2-3 รายการ และที่สำคัญบริษัทจะเปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมของตัวเองอย่างเป็นทางการ
แต่ในทางกลับกันราคาหุ้นกลับถูกซื้อขายกันที่ P/E ratio เพียง 8 เท่า คิดเป็นเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับ P/E ratio ของกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ที่ 16 เท่า ราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมถึง 54% จึงถือว่าต่ำไป มองเป็นโอกาสในการลงทุน
ในปี 55 ผังของ WORK มี 3 รายการได้ย้ายจากช่อง 7 โดย 1 รายการไป ช่อง 3 “ชิงร้อยชิงล้าน" และ 2 รายการ ไปช่อง 5 “คนอวดผี-หนูน้อยกู้อีจู้" และได้มีการเปลี่ยนรายการ 2 รายการ จาก SME ตีแตก เป็น แฟนพันธุ์แท้ และ เกมเผาขน เป็น บ้านนี้มีลุ้น ซึ่งการย้ายรายการจากช่อง 7 แม้เวลาจะลดลง 20 นาที/สัปดาห์ แต่ได้รับการชดเชยจากการปรับขึ้นค่าโฆษณาและเวลาที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเสนอรายการใหม่ ๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะได้ในช่อง 3 และช่อง 9