บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(QH) ตั้งเป้าปี 55 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% โดยมีแผนเปิดโครงการ 23 โครงการ มูลค่า 2.16 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 55 จะเน้นโครงการระดับกลางถึงล่าง รวมถึงคอนโดมิเนียมที่มาจากแบรนด์ใหม่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และยังมีรายได้จากค่าเช่าจากเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์
นอกจากนี้ เตรียมออกหุ้นกู้ 3 พันล้านในช่วงครึ่งแรกของปี 55 ส่วนในครึ่งหลังของปีจะทยอยออกอีก 2 พันล้านบาท จากวงเงินหุ้นกู้ที่เหลืออยู่ 5 พันล้านบาท จากวงเงินที่ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้ 1 หมื่นล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในปีนี้ยอมรับว่ารายได้รวมของบริษัทคงจะลดลงอย่างแน่นอน เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วมในไตรมาส 4/54 ส่งผลให้รายได้ลดลง 20-30% จากกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวลงทันที โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่บริษัทมีอยู่ และทำให้บางโครงการที่จะเปิดในไตรมาสนี้ต้องเลื่อนออกไปเช่นกัน แม้ว่าโครงการคอนโดมิเนียมมียอดขายที่ค่อนข้างดี แต่ไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด ดังนั้น จะส่งผลให้รายได้ปีนี้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท
"ตอนนี้เราพยายามผลักดันยอดโอนที่มีอยู่ 500-600 ล้านบาท แต่ไม่รู้และไม่แน่ใจว่าจะปิดยอดโอนได้ไหม จากสิ่งที่เกิดขึ้น และยอดขายในไตรมาส 4 ก็ลดลงจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งๆที่ 9 เดือนยังเป็นไปตามเป้าที่เราวางไว้ ขณะเดียวกันแม้แนวราบจะเลวร้ายแต่ยอดคอนโดฯกลับดีมาก"นางสุวรรณา พุทธปราสาท กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ QH กล่าว
จากผลกระทบสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้บริษัทปรับแผนในการพัฒนาโครงการโดยการหันมาเน้นพัฒนาโครงการทั้งแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ รวมทั้งคอนโดมิเนียม โดยบริษัทจะให้ความสำคัญกับโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น และลูกค้าระดับกลางถึงล่างที่เห็นว่ายังมีกำลังซื้ออีกค่อนข้างมาก ดังนั้น การพัฒนาโครงการในปี 55 จะปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการระดับกลางถึงล่างเพิ่มเป็น 60% จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 50%
นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาชะลอการซื้อที่ดินใหม่ในปี 55 ด้วยเช่นกัน แม้โครงการใหม่ทื่จะเปิดใหม่จะมีจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่บริษัทมีที่ดินอยู่แล้ว โดยในปีหน้ามีแผนเปิดโครงการใหม่ 23 โครงการ มูลค่า 2.16 หมื่นล้านบาท จากปี 54 ที่เปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่า 1.89 หมื่นล้านบาท ซึ่งปีนี้จะมีโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ ได้แก่ เชียงใหม่ พัทยา กรุงเทพ
นางสุวรรณา กล่าวว่า บริษัทยังมีการเพิ่มแบรนด์ GUSTO ภายใต้"คาซ่า วิลล์"เพื่อเจาะลูกค้าระดับกลางถึงล่างที่เป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 3 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ 2.5 ล้านบาท ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวในแบรนด์ดังกล่าวจำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,050 ล้านบาท และตั้งเป้าสร้างรายได้ ในปี 55 จำนวน 700 ล้านบาท
บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งขณะนี้พิจารณาเลือกสินทรัพย์ที่จะเข้ากองทุน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ที่เป็นโรงแรม และ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ จำนวน 7 อาคาร โดยคาดว่าจะเห็นการออกกองทุนฯในครึ่งหลังปี 55
ส่วนกระแสข่าวที่บริษัทจะขายหุ้น บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO)ออกไปนั้น นางสุวรรณา กล่าวว่า บริษัทยืนยันไม่มีแผนขายหุ้น HMPRO อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นบริษัทที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งปัจจุบัน QH ถืออยู่สัดส่วน 19%