ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกหนี้ยุโรปฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 139.94 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 29, 2011 06:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่าธนาคารพาณิชย์ในยุโรปได้ฝากเงินไว้ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ด้วยมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารพาณิชย์ไม่มีความเชื่อมั่นที่จะเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศในกลุ่มยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะลุกลามเป็นวงกว้าง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 139.94 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 12,151.41 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 15.79 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 1,249.64 จุด ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 35.22 จุด หรือ 1.34% ปิดที่ 2,589.98 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นขานรับข่าวอิตาลีสามารถระดมทุนได้ 9 พันล้านยูโร (1.18 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนเมื่อวานนี้ โดยให้อัตราดอกเบี้ยที่ 3.251% ต่ำกว่าระดับ 6.504% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ในการประมูลเมื่อวันที่ 25 พ.ย.

แต่ตลาดเริ่มถอยลงมาอยู่เคลื่อนไหวในแดนลบเมื่อมีรายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปได้นำเงินมาฝากไว้กับอีซีบีเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.52 แสนล้านยูโร (5.91 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 4.12 แสนล้านยูโรในวันก่อนหน้านั้น ซึ่งยอดเงินฝากที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากการที่อีซีบีตัดสินใจปล่อยสินเชื่อ 3 ปี มูลค่า 4.89 แสนล้านยูโร ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ 523 แห่งในยูโรโซนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

จำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับอีซีบีนั้น สะท้อนให้เห็นว่าธนาคารพาณิชย์ลังเลที่จะเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศที่ประสบปัญหาในยุโรโซน ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของอีซีบี และยังสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารในยุโรปขาดความเชื่อมั่นที่จะปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร

นอกจากนี้ สถานการณ์ดังกล่าวยังทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารพาณิชย์อาจลังเลที่จะเข้าซื้อตราสารหนี้ที่ไม่ระบุดอกเบี้ย (zero-coupon notes) ที่มีวงเงินสูงถึง 2 หมื่นล้านยูโร หรือ 2.61 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2555 และ 2565 ซึ่งรัฐบาลอิตาลีจะเปิดประมูลขายในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.6% หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 2.9%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และพลังงานดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมินัมรายใหญ่สุดของสหรัฐ ร่วงลง 3.1% หุ้นเชฟรอน คอร์ป ดิ่งลงกว่า 1.9% ส่วนหุ้นแคทเตอร์ พิลลาร์ ร่วงลง 2.3% และหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ร่วงลง 4.1%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย.

ส่วนวันศุกร์ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์คเดือนธ.ค. และสมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ