โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"KTB ปีหน้าสินเชื่อโตดี-ปันผลสูง-เกาะติดประเด็นร้อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 29, 2011 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น ธนาคารกรุงไทย(KTB)มองสินเชื่อในปี 55 มีโอกาสเติบโตได้ในช่วง 7-10% เนื่องจาก KTB ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือในการปล่อยสินเชื่อของภาครัฐฯ และยังมีการขยายตัวของสินเชื่อลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มขึ้นด้วย อย่าง SME เป็นต้น

KTB ยังมีกำไรที่เติบโตได้ดี และมีจุดเด่นในเรื่องอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าแบงก์ใหญ่ที่มี 2-3% โดยปี 54 คาดว่า KTB จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.4% และปี 55 คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.7%

อย่างไรก็ดี มีประเด็นที่น่าจับตา KTB มีโอกาสที่จะเพิ่มทุนได้ในอนาคต เนื่องจากมีฐานเงินกองทุนขั้นที่ 1 น้อยกว่าแบงก์อื่น และยังมี Hybrid Tier 1 จำนวน 0.8% ของสินทรัพย์เสี่ยงมาเสริม ซึ่งเป็นการใช้เงินกู้นำมาเป็นฐานเงินกองทุน ดังนั้น KTB จึงอาจเพิ่มทุนเพื่อทำให้ฐานเงินกองทุนแข็งแกร่งขึ้นมา

นอกจากนี้ จะต้องติดตามดูว่ารัฐฯจะยังถือหุ้น KTB อยู่หรือไม่ และรัฐบาลอาจจะต้องใช้เงิน ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะมีการพูดคุยกันมากขึ้นในส่วนของ KTB

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ไว้ในช่วง 22,800-24,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ในช่วง 20,500-22,700 ล้านบาท

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ    ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ทรีนีตี้              ซื้อ           25.00
          บล.เอเชีย พลัส         ซื้อ           23.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา        ซื้อ           21.00
          บล.โนมูระ พัฒนสิน       ซื้อ           20.00
          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ    ซื้อ           18.00
          บล.กสิกรไทย           ซื้อ           19.00
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส       ซื้อ           19.00
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)   ซื้อ           18.25
          บล.เกียรตินาคิน         ซื้อ           16.80

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) มองว่าการเติบโตสินเชื่อของ KTB ในปีหน้ามีโอกาสสูงกว่า 8% เนื่องจาก KTB เป็นเครื่องมือในการปล่อยสินเชื่อของภาครัฐฯ แม้จะยังเป็นห่วงตัวเลข NIM ที่อาจอ่อนตัวลง แต่ก็เชื่อว่าจะอ่อนลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ปีหน้าการตั้งสำรองฯของ KTB อาจจะมีสูงขึ้น เนื่องจากตั้งสำรองฯไว้แค่ 60% ของตัวเลข NPL ซึ่งค่อนข้างจะต่ำสุดในกลุ่มแบงก์ ขณะที่ 3 แบงก์ใหญ่มีการตั้งสำรองฯเฉลี่ยเกือบ 150% ของตัวเลข NPL โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า(H1/55)ปัญหาความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมจะค่อย ๆ ไหลเข้ามา ทำให้ KTB จะมีค่าใช้จ่ายและการตังสำรองฯที่น่าจะสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า(H2/55)

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีหน้าไว้ที่ 22,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้(2554)ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 20,900 ล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า KTB ยังมีกำไรที่เติบโตได้ดี และมีจุดเด่นในเรื่องอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่อยู่ในระดับที่สูงกว่างแบงก์ใหญ่ที่มี 2-3% แต่ KTB ปีนี้(2554)คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.4% และปีหน้าคาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.7%

นอกจากนี้ คาดว่าปี 55 KTB จะมีการขยายตัวของสินเชื่อประมาณ 10% ความที่ KTB เป็นแบงก์รัฐฯทำให้ได้เปรียบในเรื่องของสินเชื่อ โดยปีหน้าคาดว่าจะมีสินเชื่อจากภาครัฐฯเข้ามามาก แต่ผลตอบแทนที่จะได้รับอาจจะน้อย แต่ KTB ก็ยังมีการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่ออื่น ๆ ด้วยอย่าง SME เป็นต้น

ทั้งนี้ KTB มีโอกาสที่จะเพิ่มทุนได้ในอนาคต เนื่องจากมีฐานเงินกองทุนขั้นที่ 1 น้อยกว่าแบงก์อื่น และยังมี Hybrid Tier 1 จำนวน 0.8% ของสินทรัพย์เสี่ยงมาเสริม ซึ่งเป็นการใช้เงินกู้นำมาเป็นฐานเงินกองทุน ดังนั้น KTB จึงอาจเพิ่มทุนเพื่อทำให้ฐานเงินกองทุนแข็งแกร่งขึ้นมา

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ไว้ที่ 24,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 22,700 ล้านบาท

ส่วนนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ในปีหน้า KTB โดยรวมยังดีอยู่ จากการขยายตัวของสินเชื่อจากภาครัฐฯและเอกชนที่ยังคงเติบโตดี โดยคาดว่าปีหน้าสินเชื่อจะเติบโต 7% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 11% ซึ่งปีหน้าสินเชื่อจะโตน้อยกว่าปีนี้เพราะฐานปีนี้สูงและปีนี้จัดได้มีว่ามีการขยายตัวของสินเชื่อดีมาก

ส่วนเรื่องน้ำท่วมที่เกิดขึ้นนั้นจากการรับฟังจากผู้บริหารแบงก์ก็บอกว่าน้ำท่วมไม่ได้กระทบมากอะไร แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่เคลียร์เท่าไรนักต้องรอดูต่อไป

นอกจากนี้ KTB ในปีหน้ามีเรื่องที่น่าติดตามเป็นเรื่องแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้ที่อาจจะต้องเพิ่มขึ้น และเรื่องของเงินกองทุน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถือหุ้น KTB ของภาครัฐฯ โดยจะต้องติดตามดูว่ารัฐฯจะถือหุ้นอยู่หรือไม่ หรือรัฐบาลจะต้องใช้เงิน ซึ่งปีหน้าไม่แน่ว่าอาจจะมีการพูดคุยกันมากขึ้นในส่วนของ KTB

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 55 ไว้ที่ 24,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 20,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปี 53


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ