หุ้น PREB ราคาขยับขึ้น 3.51% มาอยู่ที่ 3.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 13.09 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.17 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.42 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.42 บาท
นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พรีบิลท์(PREB)เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 55 อีกครั้งในช่วงต้นปีหน้า จากเดิมคาดว่ารายได้จะเติบโตขั้นต่ำ 10% หลังมีโอกาสได้รับงานรับเหมาก่อสร้างใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายได้รวมปี 54 ยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าที่แตะ 3 พันล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้รับงานสร้างอาคารสำนักงานของ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH)ที่ถนนงามวงศ์วาน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานรับเหมาก่อสร้าง 7-8 โครงการมูลค่ารวมกันกว่า 2 พันล้านบาท ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูงที่พัทยา, อาคารสำนักงานกลางเมือง และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ
ปัจจุบัน บริษัทมียอดมูลค่างานรับเหมาก่อสร้างคงค้างในมือ(backlog) เกือบ 3 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในไตรมาส 4/54 ขั้นต่ำประมาณ 200-300 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานซ่อมแซมโรงงานของลูกค้าเก่าที่ถูกน้ำท่วม ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ฯในปี 55
"แนวโน้มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างตอนนี้น่าจะดีมาก เพราะมีทั้งงานซ่อมแซมและงานใหม่ ตอนนี้ผู้รับเหมาหายากมากโชคดีที่เราไม่ได้ตุนงานไว้เยอะ ราคาตอนนี้ก็ค่อนข้างดีด้วย ตอนนี้เราเพิ่มได้งานของ RATCH มางานเดี่ยว แต่คิดว่าในต้นปีหน้าจะเริ่มรับงานใหม่เข้ามาอีกหลายงาน เพราะตอนนี้เราก็ bid อยู่ 7-8 โครงการ และยังมีอีกหลายงานที่ไม่ต้อง bid มาคุยราคากันเลย"นายชัยรัตน์ กล่าว
สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท บิลท์แลนด์ จำกัด ขณะนี้ยอดขายคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งในปีหน้าบริษัทมีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีกอย่างน้อย 2 โครงการ และตั้งงบซื้อที่ดินในปี 55 ไว้กว่า 1 พันล้านบาท และในเดือนม.ค.55 จะเปิดขายทาวน์โฮม เดอะ เทมโป ทาวน์ รัตนาธิเบศร์-ไทรม้า มูลค่าโครงการกว่า 120 ล้านบาท
ส่วนบริษัท พีซีเอ็ม คอนสตรัคชั่น แมททีเรียล ซึ่งผลิตผนังสำเร็จรูปพรีคาสท์นั้น ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/54 คงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมพอสมควร เนื่องจากลูกค้าของบริษัทซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่นั้น ได้ชะลอการก่อสร้างไปในช่วงดังกล่าว ทำให้ต้องเลื่อนส่งมอบสินค้าไปพอสมควร แต่คาดว่าจะเริ่มกลับมาส่งมอบสินค้าได้เป็นปกติในช่วงต้นปี 55 เป็นต้นไป
ด้าน บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น PREB โดยได้เพิ่มเข้ามาเป็นหุ้นใหม่ที่ coverage เนื่องจากเป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุน ภาพรวมทั้ง 3 ธุรกิจมีส่วนเกลื้อหนุนกันทำให้คาดว่าฐานกำไรของ PREB จะเติบโตสูงถึง 63% ในปี 2554 และต่อเนื่องอีก 46% ในปี 55
โครงสร้างธุรกิจของ PREB ประมาณ 80% มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ส่วนอีก 20% ที่เหลือมาจาก การผลิต-จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และ การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขาย โดยเน้นที่คอนโดมิเนียม Low Rise ซึ่งโครงสร้างธุรกิจดังกล่าวน่าจะทำให้ PREB ได้รับอนิสงค์จากการเติบโตของตลาดคอนโดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้าง รวมถึงงานซ่อมแซมโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อย่างเต็มที่ในปี 2555
ปัจจุบัน ราคาหุ้น PREB มีค่า PER ณ สิ้นปี 2555 ที่ 4.5 เท่า ต่ำกว่า Fair Value ที่กำหนดไว้ที่ PER 7 เท่า หรือ 5.00 บาท ณ สิ้นปี 2555 พร้อมคาดหมาย Dividend Yield 6-8% ต่อปี