บล.เกียรตินาคิน ให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคาร“มากกว่าตลาด"โดยเลือก KTB และ TISCO เป็นหุ้น Top pick เนื่องจากมองว่า KTB น่าจะได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่จากรัฐบาล ให้ราคาเหมาะสม KTB ไว้ที่ 16.80 บาท และ TISCO เป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากดอกเบี้ยขาลง ให้ราคาเหมาะสม 47 บาท
นอกจากนี้ ยังมองว่าธนาคารขนาดใหญ่มีความน่าสนใจลงทุนกว่า เนื่องจากจะสามารถรองรับความต้องการสินเชื่อของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นสินเชื่อหลักที่ทำให้สินเชื่อของกลุ่มธนาคารเติบโตได้ในปี 2555 ได้มากกว่าธนาคารขนาดเล็ก แม้ว่ากระทรวงการคลังอาจจะให้ธนาคารพาณิชย์จ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อจ่ายคืนดอกเบี้ยกองทุนฟื้นฟูฯ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะแก้กฎหมายสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เพื่อนำเงินจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่มีอยู่ 3 หมื่นล้านบาทมาชำระดอกเบี้ยกองทุนฟื้นฟูฯ ส่วนที่ขาดอีก 1.5 หมื่นล้านบาท จะแก้กฎหมายให้ธนาคารพาณิชย์นำส่งค่าธรรมเนียมให้กับสถาบันคุ้มครองเงินฝาก จากเดิมนำส่งเฉพาะ 0.4% ของเงินฝาก
ราคาหุ้น KTB ปิดปลายปีก่อน (30 ธ.ค.54) ที่ 14.90 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ราคาหุ้น TISCO ปิดปลายปีก่อน (30 ธ.ค.54) ที่ 38.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง