หุ้น CPALL พุ่ง 3.83% อยู่ที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท เมื่อเวลา 10.57 น.โดยเปิดตลาดที่ 53.00 บาท สูงสุด 54.50 บาท ต่ำสุด 52.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 202.16 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(Th)แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพีออล์(CPALL)โดยมองว่า แม้ภาวะโดยรวมของธุรกิจค้าปลีกในช่วงครึ่งปีแรกจะซบเซาลง แต่จะกระทบกับ CPALL ไม่มาก เพราะสินค้าที่จำหน่ายนั้นเป็นสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสินค้าที่ทำกำไรได้ดีคือ อาหารและเครื่องดื่มที่พร้อมให้บริการในการบริโภคได้ทันที (RTE/RTD) สอดคล้องกับไลฟสไตล์ปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีความรีบเร่ง อีกทั้งจุดขายของร้าน 7-11 คือมีที่ตั้งซึ่งให้ความสะดวกใกล้บ้านจึงยังขายดี
แม้ว่าธุรกิจได้สะดุดลงบ้างใน 4Q54 จากภาวะน้ำท่วมต้องปิดให้บริการชั่วคราวถึง 700 แห่ง แต่ขณะนี้ได้ทยอยเปิดให้บริการแล้ว เหลือเพียงอีก 60 แห่งที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ทั้งหมดในปลายเดือน ม.ค.นี้ จึงเห็นว่าผลการดำเนินงาน 1Q55 จะฟื้นตัวดีขึ้นจาก q-o-q นอกจากนี้ความเสียหายจากน้ำท่วมก็จะได้รับการชดเชยจากบริษัทประกันภัยที่ครอบคลุมไว้
ส่วนการเปิดศูนย์กระจายสินค้าที่ลำพูนถือว่าดี เป็นการป้องกันความเสี่ยงจากน้ำท่วมที่อาจจะเกิดในปีนี้อีก เพราะปีที่แล้วน้ำท่วมที่ศูนย์วังน้อย อยุธยา แม้น้ำจะไม่ท่วมเข้าพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้
ทั้งนี้ ให้ราคาเป้าหมายหุ้น CPALL ที่ 56 บาท คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรสุทธิปี 55 อยู่ในเกณฑ์ดีเป็น 12% y-o-y ด้านฐานะการเงินดีมากเป็นเงินสดสุทธิ จุดดีคือตั้งแต่ เม.ย.55 จะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ คาดว่ายอดขายของบริษัทจะยิ่งดีขึ้นไปอีกจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น