นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า หากมีการปรับวิธีการให้ส่วนลดกับผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะ จะส่งผลให้ ปตท.ต้องขาดทุนสะสมจากการอุดหนุนราคาเอ็นจีวีเพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะขาดทุน 41,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้
โดยภายในสัปดาห์นี้ ปตท.จะเปิดให้กลุ่มผู้ขับขี่รถโดยสารหมวด 4 เอกชนกรุงเทพ หรือ รถสองแถวในซอย และรถร่วม ขสมก. มาลงทะเบียนเพื่อขอรับบัตรติดหน้ารถลักษณะเดียวกับรถแท็กซี่ เพื่อใช้สิทธิ์เป็นส่วนลดราคาก๊าซเอ็นจีวี เป็นเวลา 4 เดือน หรือรวมเป็น 2 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบหลังจากรัฐบาลเตรียมปรับขึ้นราคา 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 12 เดือน ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยเริ่มปรับครั้งแรกในวันที่ 16 มกราคมนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิรวมประมาณ 7 พันคน
ส่วนกลุ่มรถแท็กซี่ ขณะนี้ ปตท.ได้ออกบัตรติดหน้ารถแล้ว 6 หมื่นคัน โดยจะขอความร่วมมือผู้ขับรถแท็กซี่ ทั้งแท็กซี่ส่วนบุคคล และกลุ่มสหกรณ์ให้มารับบัตรดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ที่เจเจมอลล์เช่นกัน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์ได้ทันทีในวันที่ 16 มกราคมนี้ โดยผู้ขับขี่รถกลุ่มดังกล่าวนี้จะได้รับส่วนลดราคาเอ็นจีวี 9 พันบาทต่อเดือน แต่จะไม่ได้รับวงเงินเครดิต 3 พันบาทต่อเดือน เนื่องจากไม่ได้เข้าร่วมโครงการบัตรเครดิตพลังงาน ขณะที่ตัวเลขรถแท็กซี่ที่สมัครบัตรเครดิตพลังงานขณะนี้มีประมาณ 3 หมื่นคน โดย ปตท.ยังคงเปิดรับสมัครบัตรเครดิตพลังงานต่อเนื่อง
สำหรับกลุ่มรถบรรทุกได้ข้อสรุปว่า ในช่วง 2 เดือนแรกนี้จะให้รัฐบาลปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีไปก่อน เพื่อให้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและผู้ประกอบการที่ตั้งขึ้นมาได้ร่วมศึกษาต้นทุนราคาเอ็นจีวีที่แท้จริง ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ปตท.จะเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนก๊าซเอ็นจีวี และการขยายสถานีบริการให้เพียงพอกับความต้องการ โดยภายในเดือนเมษายนนี้จะเร่งการจ่ายก๊าซให้กับสถานีลูกในกรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีก 500 ตันต่อวัน เป็น 7,900 ตันต่อวัน และจะเพิ่มเป็น 8,400 ตันต่อวันก่อนสิ้นปีนี้ รวมทั้งมีโครงการที่จะเพิ่มหัวจ่ายก๊าซในสถานีเอ็นจีวีเดิมที่มีอยู่ โดยเฉพาะย่านหมอชิต เพื่อรองรับความต้องการที่มีจำนวนมาก
นอกจากนี้ ปตท.จะเร่งขยายสถานีบริการเอ็นจีวีเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า สิ้นปีนี้จะมีสถานีบริการรวมกว่า 530 แห่ง และจะเพิ่มสถานีแม่ หรือสถานีตามแนวท่อมากขึ้น โดยในการก่อสร้างสถานีเอ็นจีวีของ ปตท. ต่อไปจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีส่วนร่วมมากขึ้น และในอนาคต ปตท.มีแผนจะขยายสถานีเอ็นจีวีในพื้นที่ของทางราชการ หรือที่ราชพัสดุ โดยเฉพาะจุดที่อยู่ใกล้แนวท่อ เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการ