ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปพุ่งรับผลประกอบการ"อัลโค",แรงซื้อหุ้นเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 11, 2012 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการของบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่อย่างคักคึก หลังจากจีนนำเข้าทองแดงเพิ่มขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.8% ปิดที่ 250.82 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 145.75 จุด หรือ 2.42% ปิดที่ 6,162.98 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,069.36 - 6,191.29 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 83.10 จุด หรือ 2.66% ปิดที่ 3,210.79 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,154.25 - 3,219.43 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้น 84.44 จุด หรือ 1.5% ปิดที่ 5,696.70 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,612.26-5,711.89 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนหลังจากนายเคลาส์ ไคลน์เฟลด์ ซีอีโอของอัลโค อิงค์คาดว่า ความต้องการแร่อลูมินัมในตลาดโลกจะขยายตัว 7% ในปี 2555 ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในวงกว้าง เนื่องจากมีอุตสาหกรรมหลากหลายประเภทที่ใช้แร่อลูมินัมเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์

นอจากนี้ อัลโค อิง์เปิดเผยว่า แม้ว่าบริษัทมีตัวเลขขาดทุน 191 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4 แต่รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% สู่ระดับ 5.99 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นหลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนทะยานขึ้น ขานรับรายงานที่ว่า จีนนำเข้าทองแดงเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 3.4% หุ้นริโอทินโต ดีดตัวขึ้น 3.6% หุ้นเอ็กสตราต้าพุ่งขึ้น 3.1% และหุ้นคาซัคมิสพุ่งขึ้น 5.9%

หุ้นกลุ่มรถยนต์ทะยานขึ้น โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นโฟล์คสวาเก้น ดีดขึ้น 3.2% และหุ้นเดมเลอร์พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากบีเอ็มดับเบิลยู, เดมเลอร์ และออดี้ เอจี วางแผนที่จะขยายการเติบโตทางธุรกิจในปี 2555 ภายหลังจากที่ทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว

หุ้นยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 6% ขณะที่หุ้นสวอช กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ปรับตัวขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 22%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ