ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:วิตกเศรษฐกิจยุโรปถดถอย ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 13.02 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 12, 2012 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้สาธารณะจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปในระดับที่รุนแรง หลังจากเยอรมนีเปิดเผยว่าเศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาดูการประมูลพันธบัตรของสเปนและอิตาลีซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 13.02 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 12,449.45 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.40 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 1,292.48 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 8.26 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 2,710.76 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่กำลังส่งผลคุกคามเศรษฐกิจในยูโรโซน โดยล่าสุดมีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรป หดตัวลงราว 0.25% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจเยอรมนีอาจจะเผชิญกับภาวะถดถอย แม้สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีระบุว่า จีดีพีตลอดปี 2554 ขยายตัว 3% ก็ตาม

ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซามาขึ้นเมื่อสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ในไตรมาส 3 ลงมาอยู่ที่ 0.1% ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี และคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เตือนว่า ฮังการียังไม่ได้ดำเนินมาตรการที่แข็งแกร่งพอในการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการถดถอยของเศรษฐกิจยุโรปทำให้นักวิเคราะห์ของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐจำเป็นต้องพึ่งพายุโรปในการซื้อสินค้าส่งออกถึง 20% ของปริมาณการส่งออกโดยรวม โดยเอสแอนด์พีคาดว่าผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 จะเพิ่มขึ้นเพียง 7.2% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ลดลงจากไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ถึง 17.6%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่ฟิทช์ เรทติงส์ เตือนว่า กลุ่มประเทศยูโรโซนอาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการร่วงลงของสกุลเงินยูโร หากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ไม่ดำเนินการซื้อพันธบัตรของประเทศยูโรโซน และเตือนว่าหากกรีซไม่สามารถทำข้อตกลงลดหนี้กับเจ้าหนี้ได้ วิกฤตยูโรโซนก็จะย่ำแย่ลงอีก

กรีซกำลังเจรจากับเอกชนเพื่อขอให้ปรับลดมูลค่าการถือครองพันธบัตรกรีซลง 50% หรือเป็นการขอลดหนี้ลง 50% ก่อนที่พันธบัตรกรีซมูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโรจะครบกำหนดชำระในเดือนมีนาคมนี้ อย่างไรก็ดี อีซีบีปฏิเสธที่จะปรับลดมูลค่าพันธบัตรกรีซที่ถือครองอยู่ราว 4.5 หมื่นล้านยูโร ซึ่งหมายความว่าภาคเอกชนต้องแบกรับภาระมากขึ้นเพื่อให้กรีซบรรลุเป้าหมายการลดหนี้

นักลงทุนจับตาดูการประมูลพันธบัตรของสเปนและอิตาลีซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของวิกฤตหนี้ยูโรโซน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะซบเซาลงอีก หากนักลงทุนตอบรับการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีและสเปนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

หุ้นโคคา-โคลา ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำส้มแบรนด์ "Minute Maid" ร่วงลง 1.85 ขณะที่หุ้นเป๊ปซีโค ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำส้ม "Tropicana" ปรับตัวลง 1% หลังจากมีรายงานว่าราคาน้ำส้มในตลาดสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากรายงานของรัฐบาลสหรัฐที่ระบุว่า ผลส้มที่นำเข้าจากบราซิลอาจจะมีการปนเปื้อน

หุ้นเชฟรอน คอร์ป ร่วงลง 1.2% หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้น 3M ร่วงลง 0.6%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ