นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาตซึ่งอยู่ในกลุ่ม บมจ.ทุนธนชาต(TCAP) เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของธนาคารในปี 54 จะต่ำกว่าปี 53 เนื่องมาจากเป็นปีที่มีค่าใช้จ่ายจำนวนมากเป็นพิเศษจากการควบรวมกิจการกับธนาคารนครหลวงไทย (SCIB)
นอกจากนั้น ในช่วงไตรมาส 4/54 การปล่อยสินเชื่อทุกกลุ่มของธนาคารหดตัวลงจากผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อที่อยู่อาศัย แต่เมื่อพิจารณาในพรวมทั้งปีการปล่อยสินเชื่อของธนาคารจะลดลงไม่มาก เนื่องจากช่วง 9 เดือนแรกของปีสินเชื่อรวมขยายตัวได้ราว 4-5% แล้ว แบ่งเป็นสินเชื่อรถยนต์ขยายตัว 13% สินเชื่อเอสเอ็มอี 5-6% ขณะที่ไตรมาสสุดท้ายของปีสินเชื่อเอสเอ็มอีทรงตัว
"กำไรในปี 54 แม้จะลดลงกว่าปี 53 แต่ก็ไม่น่าเกลียด เพราะเรามีค่าใช้จ่ายการควบรวมกิจการและเวลาทำมาหากินน้อยลง" นายสมเจตน์ กล่าว
สำหรับยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 54 อยู่ระดับไม่น่าเป็นห่วงจากผลกระทบน้ำท่วม โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ มีลูกค้ายื่นขอปรับโครงสร้างหนี้จำนวนมาก แต่เชื่อว่าทำให้ NPL เพิ่มขึ้นไม่มาก
นอกจากนี้ บริษัทต้องปรับปรุงกลยุทธ์ของปี 55 ใหม่หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ในปลายปีที่ผ่านมา ทำให้แผนงานปี 55 ปรากฎชัดเจนในต้นเดือนก.พ.นี้
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะหารือกับธนาคารพาณิชย์ และสมาคมธนาคารไทยในค่ำวันนี้นั้น นายสมเจตน์ กล่าวว่า จะมีการหารือเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ซอฟท์โลน จำนวน 3 แสนล้านบาทด้วย ซึ่งต้องเร่งกระจายเงินส่วนนี้ให้เร็วที่สุด ขณะที่การหารือการเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากธนาคารพาณิชย์ ต้องมีการหารือถึงความจำเป็นเร่งด่วนกันอย่างไร คาดว่าจะได้ความชัดเจนมากขึ้น
"เรื่องเก็บค่าธรรมเนียมอะไรก็ต้องขอรอดูการประชุมวันนี้ก่อน ว่า ความจำเป็นเร่งด่วน จะทำครั้งเดียวหรือทยอยทำ ผมคิดว่าสมาคมยินดีเปิดรับฟังเรื่องนี้ คุยกันเพื่อหาทางออกเพื่อให้ระบบเดินไปได้ ...หากเป็นภาระจะบริหารอย่างไร ถ้ากำไรลด ก็ต้องหาทางบริหารซึ่งก็ไม่ต้นลดค่าใข้จ่ายเพิ่มประสิทธิภาพ ยังต้องรับผิดชอบผู้ถือหุ้นในการหากำไร แต่ละแบงก์ไม่มีสูตรสำเร็จ"นายสมเจตน์กล่าว
อย่างไรก็ดี นายสมเจตน์ กล่าวว่า แม้ว่าการระดมเงินผ่านตั๋วแลกเงิน(B/E)จะมีกระแสว่าจะเก็บค่าธรรมเนียม แต่เห็นว่าแบงก์สามารถหาวิธีระดมเงินรูปแบบอื่นได้ ขณะที่สถานะทางธุรกิจของ ธ.ธนชาต ปัจจุบันแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน โดยปัจจุบันมีสินเชื่อที่มีดอกเบี้ย่คงที่สัดส่วน กว่า 40% จากก่อนหน้านี้ที่มีสินเชื่อดอกเบี้ยคงทีสัดส่วนสูงุถึง 80% ซึ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นหลัก