ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้ (12 ม.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำใหันักลงทุนมีความวิตกกังวล อย่างไรก็ตาม ตลาดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้แรงหนุนจากความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของอิตาลีและสเปน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดลบ 9.31 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 12,440.14 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.46% หรือ 0.04% แตะที่ 1,292.94 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.89 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 2,709.87 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดอ่อนตัวลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ม.ค. เพิ่มขึ้น 24,000 ราย มาอยู่ที่ 399,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 375,000 ราย
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ขยับขึ้นเพียง 0.1% น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.4% และยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 1 ปีได้ 8.5 พันล้านยูโรในวันนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทน 2.735% ลดลงจากระดับ 5.95% ขณะที่สเปนสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรได้เกือบ 1 หมื่นล้านยูโร (1.27 หมื่นล้านดอลลาร์) ด้วยอัตราการเสนอซื้อมีอยู่มากกว่าพันธบัตรที่นำออกจำหน่ายกว่า 2 เท่า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1% ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายวันแรกของปี 2555 ในวันนี้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายจากความกังวลที่ว่าอีซีบีอาจจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้