นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปี 55 จะมีกำไรทะลุ 1,000 ล้านบาท จากเป้าหมายรายได้ที่ 2.75 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน โดยจะเติบโตจากธุรกิจหลักในเครือ คือ บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย(SIM) และ บมจ.สามารถเทลคอม(SAMTEL) เป็นหลัก
บริษัทคาดว่า SIM ในปีนี้จะมีรายได้ราว 9 พันล้านบาท เป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ๆ เข้ามา โดยเฉพาะการสร้างรายได้ประจำจากค่าบริการ MVNO และธุรกิจโมบาย คอนเท้นท์ รวมทั้งการขยายโอกาสทางการตลาดในการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ เพื่อสนองความต้องการผู้บริโภค ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าขายมือถือแบรนด์ไอ-โมบาย 3.5 ล้านเครื่อง หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 31% สูงขึ้นจากปีก่อน นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมในการให้บริการ MVNO อย่างเต็มรูปแบบ คาดหวังลูกค้าที่ 1 ล้านราย
สำหรับสายธุรกิจ ICT Solutions นั้น SAMTEL ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตกว่า 20% จากปีก่อน โดยคาดว่าจะเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ รวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท เช่น งานติดตั้งโครงข่าย 3G ส่วนต่อขยายเฟส 2 ของ บมจ.ทีโอที(TOT) มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท, งานศูนย์ข้อมูลที่ดินและแผนที่แห่งชาติของกรมที่ดินมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท และ งานพัฒนาโครงข่ายบอดแบรนด์ทั่วประเทศของ TOT มูลค่าโครงการประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และยังมีโครงการต่างๆ ด้านไอทีของภาครัฐอื่นๆอีกจำนวนมาก ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะชนะงานราว 50% ที่เข้าประมูล
นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า บริษัทยังได้ศึกษาการสานต่อธุรกิจยูทิลิตี้เซอร์วิส โดยตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ 1.3 พันล้านบาท จาก บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด คาดว่าจะมีเที่ยวบินเพิ่มเกือบ 10% และมีรายได้จากบริษัท กัมปอต เพาเวอร์แพลนท์ จำกัด ซึ่งบริหารโรงไฟฟ้าในกัมพูชา, บริษัท สุวรรณภูมิเอ็นไวรอนเมนท์ แคร์ จำกัด และที่สำคัญบริษัทล่าสุด บ.สามารถ ยู-ทรานส์ ซึ่งเปิดตัวในปีนี้ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทศึกษาโอกาสทางธุรกิจทางด้านยูทิลิตี้และทรานสปอร์ตเซชั่นเป็นหลัก โดยจะเริ่มเห็นงานเป็นรูปธรรมปีนี้คาดหวังมูลค่างานรวมกว่า 4,000 ล้านบาท
ส่วนสายธุรกิจอื่นๆ ด้านธุรกิจ Contact Center และ บริษัท สามารถวิศวกรรม คาดว่าจะมีรายได้ 2.2 พันล้านบาท หรือเพิ่มกว่า 10% จากปีก่อน