(เพิ่มเติม) CHOW คาดกำไรปี 55 สูงกว่าปี 54 ตามรายได้โต-มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 16, 2012 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW) คาดว่ากำไรสุทธิในปี 55 จะสูงกว่าในปี 54 เนื่องจากประเมินว่ารายได้ปี 55 จะเติบโต 20-30% จากปี 54 ที่ทำได้เกินเป้า 5 พันล้านบาท จากการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20% เป็น 3.4-3.6 แสนตัน/ปี โดยปี 54 มีกำลังผลิตที่ 2.8-3.0 แสนตัน/ปี อีกทั้งตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่ 8-11% ขณะที่ 9 เดือนแรกของปีก่อนอยู่ที่ 8%

เหตุที่บริษัทมีมาร์จิ้นดี เนื่องจากบริษัทจะยังคงผลิตในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ(Off-Peak Period) ซึ่งบริษัทจะมีกำลังการผลิตเต็มที่เท่ากับ 4.5 แสนตัน/ปี ทำให้บริษัทได้เปรียบเรื่องต้นทุนโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำกว่าการผลิตในช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงถึง 2.5 เท่า

และคาดว่าในปี 56 จะมีกำลังการผลิตเต็มที่ หรือประมาณ 90% ของกำลังการผลิต โดยบริษัทจะหาช่องทางอื่น ได้แก่ การเข้าควบรวมกิจการ (M&A) การลงทุนโรงงานใหม่ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณากันต่อไป

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHOW คาดว่า ราคาเหล็กแท่งยาว(Steel Billet)ในปี 55 จะปรับขึ้นลงไม่เกิน 10% ของราคาในปี 54 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 20 บาท/กก.เนื่องจากไม่มีปัจจัยที่ทำให้ราคาเหล็กปรับตัวลงแรง แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปจะไม่ดี แต่ก็เกิดผลให้ฉุดราคาขายไม่มาก โดยในช่วงต้นปี 55 ราคาเหล็กแท่งยาวอยู่ที่ 20.50 บาท/กก.

ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศปี 55 จะเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากปี 54 จากการลงทุนภาครัฐ เช่น โครงการเมกะโปรเจ็กต์ อีกทั้งหลังสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้เกิดความต้องการเหล็กเพื่อใช้ฟื้นฟู ซ่อมแซมโครงสร้างต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น ที่อยู่อาศัย ถนน สะพาน เขื่อน เป็นต้น ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะเน้นตลาดในประเทศ

"ก่อนหน้าที่จะเกิดอุทกภัย หลายฝ่ายมองว่าความต้องการเหล็กในประเทศทั้งระบบในปีหน้าจะขยายตัวประมาณ 10-14% แต่หลังจากเกิดอุทกภัยเชื่อว่าความต้องการใช้เหล็กซ่อมสร้างสิ่งปลูกสร้างยิ่งเพิ่มขึ้น" นายอนาวิล กล่าว

ขณะที่ตลาดต่างประเทศปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้ 8-10% ใกล้เคียงกับปี 54 จากในปี 53 เคยส่งออกไปสูงถึง 30% ของรายได้ เนื่องจากสินค้าของบริษัททดแทนเหล็กนำเข้า ซึ่งปัจจุบันยังต้องนำเข้าประมาณ 1 ล้านตัน แต่หากความต้องการในประเทศลดลง บริษัทก็จะหันไปส่งออกแทน แต่จะไม่ยกเลิกส่งออก ทั้งนี้เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าต่างประเทศไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ