นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์ (TOP)กล่าวว่า ค่าการการกลั่นเฉลี่ยรวมธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจอะโรเมติกส์(GIM)อยู่ที่ 6 เหรียญฯ/บาร์เรล แม้จะดีขึ้นกว่าปลายปีก่อนที่อยู่ในระดับ 5 เหรียญฯ/บาร์เรล แต่ก็ต่ำกว่าระดับที่เหมาะสมที่ 8 เหรียญฯ/บาร์เรล เนื่องจากค่าการกลั่น(GRM)เหลือเพียง 3 เหรียญ/บาร์เรล ต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็นที่ 5 เหรียญ/บาร์เรล เพราะถูกกดดันจากวิกฤติหนี้ในยุโรปและปัจจัยค่าเงิน
ขณะที่ราคาเบนซีนก็อยู่ในระดับต่ำ แต่ราคาพาราไซลีนยังอยู่ในระดับสูงจากความต้องการของตลาดที่มีอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่มีผลต่อค่าการกลั่นยังเป็นปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาในยุโรป ซึ่งทำให้บริษัทจะต้องป้องกันความเสี่ยงด้วยการทำ Hedging ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจาก 10% เพิ่มเป็น 20% ในปีนี้ จากที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติกรอบไว้ที่ 50%
สำหรับการคาดการณ์รายได้กำไรปีนี้เป็นอย่างลำบาก เพราะมีปัจจัยเสี่ยงจำนวนมาก โดยเฉพาะยุโรปกดดันราคาผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะเบนซิน รวมทั้งปัจจัยในประเทศต้องรอดูนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับการส่งเสริมน้ำมัน E91 E95 ด้วย ซึ่งจะมีผลต่อราคาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเบนซิน
"ต้นปีนี้ยังไม่เห็นแววว่าจะมี stock gain แต่ปีที่แล้วช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมี stock gain ส่วนทั้งปีเชื่อว่าคงมี stock gain แต่ไม่มาก"นายสุรงค์ กล่าว
นายสุรงค์ ยังกล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังจะเน้นการลงทุนในต่างประเทศร่วมกับกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) ที่มีความพร้อมในการร่วมมือระหว่างกัน ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจในปัจจุบันที่พึ่งพาในประเทศเป็นหลัก