หุ้น SST ราคาพุ่งขึ้น 5.93% มาอยู่ที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 149.14 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.04 น. โดยเปิดตลาดที่ 13.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 14.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 13.70 บาท
นายปิลัญชัย ประดับพงศ์ รองประธานกรรมการ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ราคาหุ้น SST ปรับตัวขึ้นสูงในวันนี้ทั้งที่มีลูกหุ้นเพิ่มทุนเข้าเทรดเป็นวันแรก โดยปกติจะราคาหุ้นจะขยับตัวลง ส่วนหนึ่งคาดว่าจะเป็นผลจากที่เมื่อวานนี้(16 ม.ค.)มีผู้จัดการกองทุนและโบรกเกอร์เข้ามา Visit จำนวน 9 คนจาก 4 บริษัท ซึ่งก็ได้มีการสอบถามข้อมูลของบริษัทฯหลายประเด็น
อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ได้รับหุ้นเพิ่มทุนของ SST จำนวน 9,652,308 หุ้น เข้าเทรดวันนี้(17 ม.ค.)เป็นวันแรก ทั้งนี้หุ้นเพิ่มทุนเกิดจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ (SST-W1) จำนวน 9,652,308 หน่วย ในราคาใช้สิทธิ 8 บาท/หุ้น ในอัตราใช้สิทธิ 1 : 1
นายปิลัญชัย กล่าวต่อว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่คาดว่าจะมีรายได้กว่า 700 ล้านบาท เนื่องจากปี 55 บริษัทฯจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจฟาสต์ฟู้ดที่เพิ่งซื้อกิจการเข้ามาทั้งโอบองแปง-ดังกิ้นโดนัท คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท และยังมองโอกาสที่จะลงทุนในธุรกิจอาหารเพิ่มเติมอีก ส่วนธุรกิจน้ำมันพืชทิพจะเติบโตไม่ค่อยมาก แต่ก็ยังไปได้เรื่อย ๆ
"ทางบริษัทฯยังมีโอกาสที่จะลงทุนในธุรกิจอาหารเพิ่มเติมเข้ามาอีก แต่ธุรกิจอาหารที่บริษัทฯจะเข้าไปลงทุนก็คงจะไม่ใช่พวกโดนัท เพราะทางเราไม่ต้องการที่จะให้มีการทับเส้นกัน และการเลือกแบรนด์ที่จะลงทุนก็คงจะเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำเร็จสูง โดยดู 2 อย่างด้วยกัน คืออย่างแรกจะเป็นแบรนด์เมืองนอกที่เข้ามาทำในไทย และอย่างที่สองจะเป็นการสร้างแบรนด์ไทยขึ้นมา และทำสำเร็จได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาก็มีหลายรายที่มีการเจรจากับบริษัทฯ"นายปิลัญชัย กล่าว
รองประธานกรรมการ SST กล่าวว่า เมื่อธุรกิจของบริษัทฯได้มีการหันไปรับรายได้จากธุรกิจอาหารเป็นหลัก ก็คงจะทำให้ SST มีโอกาสที่จะต้องย้ายกลุ่มสังกัดไปอยู่ในกลุ่มอาหารได้ภายหลังจากผลประกอบการงวดไตรมาส 1/55 ออกมาแล้ว จากปัจจุบันที่อยู่ในกลุ่มบริการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอให้ทางตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้ออกคำสั่ง
"ทางบริษัทฯพร้อมที่จะทำไปตามกฎของตลาดฯ ซึ่งตอนนี้ก็ต้องรอให้งบฯไตรมาส 1/55 ออกมาก่อน แต่ก็เดา ๆ กันว่าหลังจากงบฯออกมาแล้ว ตลาดหลักทรัพย์คงจะสั่งให้ย้ายไปอยู่ในกลุ่มอาหาร ซึ่งเราก็คงจะไป แล้วแต่ตลาดฯจะสั่ง"รองประธานกรรมการ SST กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายปิลัญชัย กล่าวต่อว่า ธุรกิจอาหารและคลังสินค้ายังให้ผลกำไรสูง ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้านั้นทางบริษัทฯก็ได้มีการซื้อที่ดินเพิ่ม 20 ไร่ใกล้กับคลังสินค้าเดิมที่มี 2 คลังสินค้า เนื้อที่กว่า 70 ไร่ ซึ่งที่ดินใหม่คาดว่าจะสร้างเป็นคลังสินค้าได้ทันที เพียงแต่ต้องรอดูความต้องการของลูกค้าก่อน เพราะการสร้างคลังสินค้าเป็นการลงทุนที่ใช้งบฯสูง และกว่าที่จะคุ้มทุนได้ก็ประมาณ 8-9 ปี แต่ทางบริษัทฯก็จะพยายามให้ถึงจุดคุ้มทุนโดยเร็วที่สุด
"ในปีนี้(2555)บริษัทฯมีการเตรียมความพร้อมในด้านการระดมทุน ซึ่งบริษัทฯก็ได้มีการจัดทำแผน 1, แผน 2, แผน 3, แผน 4 เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า ณ เวลานั้นเราต้องการใช้เงินทุนเท่าไร โดยบริษัทฯมีการศึกษาทั้งในเรื่องการขายคลังสินค้าเข้ากองทุน, การเพิ่มทุน, การออกวอแรนต์ เป็นต้น แต่จะใช้วิธีไหนก็ต้องดูความเหมาะสมอีกที"นายปิลัญชัย กล่าว