นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้ามูลค่าธุรกรรมนำเข้าส่งออกผ่านธนาคารปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4.7 แสนล้านบาท จาก 3.5 แสนล้านบาทในปี 54 เบื้องต้นคาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เข้ามา 3,000 ราย ซึ่งธนาคารจะมีโปรแกรมใหม่ ๆ ออกมากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมเป็นไปตามเป้าหมาย 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่ทำได้ 560 ล้านบาท
ล่าสุด ธนาคารออกแคมเปญ"แพ็คเกจสุดคุ้ม SME โกอินเตอร์ฉลุย"เพิ่มโอกาสธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ทั้งในอาเซียนคู่ค้าอันดับหนึ่งและตลาดอื่น โดยได้รวมบริการธุรกรรมนำเข้าและส่งออกครบวงจร ทั้งลดต้นทุนค่าธรรมเนียม วงเงินสินเชื่อไม่มีประกัน คุ้มครองความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน รับประกันการชำระเงินจากคู่ค้าใน 139 ประเทศ
นายพัชร กล่าวว่า ธนาคารยังตั้งเป้าสินเชื่อกลุ่มธุรกิจนำเข้าส่งออกเติบโต 10-11% จากฐานสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(SME)ที่ 4.2 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันในพอร์ตดังกล่าวมีสัดส่วนเป็นสินเชื่อผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก 7%
การที่ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อธุรกิจนำเข้าส่งออกขยายตัว 10-11% ถือว่าสูงกว่าตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตแค่ 5% แต่ก็ชะลอลงจากปี 54 ที่สินเชื่อธุรกิจผู้นำเข้าส่งออกเติบโต 16% ขณะที่ตลาดรวมส่งออกเติบโต 27% และการนำเข้าเติบโต 23% เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ก็ต้องระมัดระวัง เพราะมีความเสี่ยงที่ต้องดูแลค่อนข้างมาก ซึ่งโดยรวมธนาคารต้องการจะเติบโตจากค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่างๆ มากกว่า
"แนวโน้มธุรกิจนำเข้าส่งออกปีนี้โตลดลง เพราะปีนี้มีความเสี่ยงทั้งจากกำลังซื้อต่างประเทศลดลงจากปัญหายุโรป จีนก็สโลว์ดาวน์ สหรัฐยังไม่ฟื้น ปีนี้ปัจจัยใน-ตปท.อาจทำให้การทำงานยากขึ้น"นายพัชร กล่าว
นายพัชร กล่าวอีกว่า สำหรับผลกระทบน้ำท่วมในช่วงปลายปีพบว่ามีจำนวนลูกค้า SME มาขอความช่วยเหลือ 4,000 ราย จากลูกค้าเกือบ 2 แสนราย หรือคิดเป็นวงเงิน 26,000 ล้านบาท ส่วนภาคใต้น้ำเพิ่งเริ่มท่วมสัปดาห์ที่แล้วธนาคารมีลูกค้าสินเชื่อในพื้นที่ดังกล่าววงเงิน 15,000 ล้านบาทในจำนวนนี้ยังไม่เป็นหนี้เสีย แต่คิดว่าความเสียหายคงไม่มากเพราะน้ำท่วมเร็วลงเร็ว