นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิด เผยว่า ก.ล.ต. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน 13 ราย และตำหนิอีก 18 ราย เนื่องจากไม่บันทึกเทปการให้คำแนะนำและ ไม่มีหลักฐานแสดงที่มาของคำสั่งจากลูกค้าอย่างครบถ้วนหรือตรงกับความเป็นจริง
สืบเนื่องจากการที่ ก.ล.ต. ตรวจสอบการดำเนินงานตามปกติของบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 9 บริษัท และได้สุ่มตรวจ สอบรายการซื้อขายของลูกค้าที่สั่งซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านโทรศัพท์และลูกค้าที่ส่งคำสั่งซื้อขายที่ห้องค้า พบว่าผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนจำนวน 31 รายไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของคำสั่งจากลูกค้าได้ ส่วนใหญ่ยอมรับว่ารับคำสั่งจากลูกค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยอ้างว่าลูกค้าไม่ สะดวกหรือไม่คุ้นเคยที่จะส่งคำสั่งผ่านระบบโทรศัพท์บันทึกเทปที่บริษัทจัดไว้
ส่วนกรณีลูกค้าที่ห้องค้านั้น พบว่าผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนจัดทำรายงานการส่งคำสั่งของลูกค้าที่มีรายการไม่ครบถ้วน บางรายจัด ทำหลักฐานที่มาของคำสั่งไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น ลูกค้าส่งคำสั่งทางโทรศัพท์ แต่กลับใช้การเขียนใบคำสั่งแทนที่จะบันทึกเทป เป็นต้น
นายวสันต์ กล่าวว่า หลักฐานการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เป็นสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเกิดการโต้แย้งกันเกี่ยวกับการส่งคำสั่งระหว่างบริษัทหลักทรัพย์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน และลูกค้า หลักเกณฑ์ในเรื่องนี้จึงถูกกำหนดขึ้น ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยบริษัทหลักทรัพย์มีหน้าที่จัดให้มีระบบและเครื่องมือการเก็บหลักฐานการส่งคำสั่ง ซึ่งรวมถึง ระบบการบันทึกเทปสำหรับการส่งคำสั่งทางโทรศัพท์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนมีหน้าที่เก็บและบันทึกคำสั่งให้ครบถ้วน ตรงตามความเป็นจริง
ในขณะที่ผู้ลงทุนเองก็ไม่ควรละเลยในการปฏิบัติตามระเบียบที่บริษัทหลักทรัพย์จัดไว้เพื่อเป็นการป้องกันกรณีพิพาทและการ ทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับทรัพย์สินของตนการที่ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนไม่จัดเก็บหลักฐานการส่งคำสั่งของลูกค้าอย่างครบถ้วนและถูกต้องเป็น การปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนตามข้อ 14(7) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข. 49/2552 เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนและมาตรฐานการปฏิบัติงาน ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2552 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข. 50/2552 เรื่อง การให้ความเห็น ชอบผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและมาตรฐานการปฏิบัติงาน ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2552
ก.ล.ต. จึงลงโทษเจ้าหน้าที่การตลาดทั้ง 31 ราย มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2554 ดังนี้
1.สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นระยะเวลา 2 เดือน จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายขจิตสักก์ ชลิตอาภรณ์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน ของ บล.ไอร่า
2. สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นระยะเวลา 1 เดือน จำนวน 12 ราย ได้แก่ นางสาวนงลักษณ์ เกษทรัพย์ นางสาว วราภรณ์ บุตรพลอย และนางสาววิลาวัณย์ สาระทรัพย์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ บล.ซิกโก้, นายนพรัตน์ สุขแสนนพคุณ และ นางสาวพิมพ์ลดา พัฒนะวราโรจน์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ บล.ยูไนเต็ด, นายคมกฤต แก้วเนิน ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ บล.เคที ซีมิ โก้, นางสาวนิสารัตน์ หาญพิมาย นายเอกบงกช มานะพันธุ์นิยม และนายสมพล สัจจาพิทักษ์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ บล. เคจี ไอ (ประเทศไทย) นางวรรณา อรรถจารุสิทธิ์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ บล.ภัทร และนายวิโรจน์ เดชะผล และนางสาวศัลย์ศ ยา โชคทวีรัตน์ ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของ บล.โกลเบล็ก
3. ตำหนิพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จำนวน 18 ราย ได้แก่
1. นายไกรศักดิ์ ธัญญานุรักษา 10. นางสาวณฐินี พานิชพันธ์ 2. นางสาวอนงค์นาถ ศรีสุข 11. นายเนรมิต โสภาพร 3. นายวิโรจน์ ทองฤกษ์ฤทธิ์ 12. นางสาวคนึงนิจ อาทยะกุล 4. นายวรพจน์ ศิริงาม 13. นายเทพฤทธิ์ ทองโอฬาร 5. นายวีรพงศ์ สิริสัมฤทธิ์ 14. นางสาวสุคนธา ชัชวาลย์ 6. นางสาวสุมนรัตน์ ไตรภพภูมิ 15. นางสาวจันทราภา วงศ์ไพบูลย์ 7. นางสาวพรปวีณ์ จันทร์คำ 16. นายสมชาย พิเชษฐสุภกิจ 8. นางอุษณีย์ งามจิตสุขศรี 17. นายวัชรินทร์ อรุณแสงสุรีย์ 9. นายกนก รัตนไพบูลย์สวัสดิ์ 18. นางสาวอนุสรา เชื้อคำ