สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 42,206 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 22,861 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 54% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 17,198 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 ปี 3 ปี และ 5 ปี (LB133A LB15DA และLB176A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 13,795 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1,469 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)(AYCAL145A) หุ้นกู้บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)(SCCC136A) และหุ้นกู้อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL16OA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 913 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 4,169 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 775 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 1,072 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ค่อนข้างคงที่เกือบทุกช่วงอายุของตราสาร ยกเว้นตราสารช่วงอายุ 5 — 8 ปี ที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 Basis Point โดยภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในวันนี้ ผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี มีอุปสงค์ (Demand) ค่อนข้างมากตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สำหรับการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในวันที่ 25 ม.ค. ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.09% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.12%